วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

รายงานการประชุม กทจ.นราธิวาส ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖


รายงานการประชุมคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส
 ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖
วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.
ณ ห้องประชุมหลวงปริวรรตวรวิจิตร ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
           
ลำดับที่    ชื่อ - สกุล    ตำแหน่ง    ลายมือชื่อ    หมายเหตุ
๑    นายวีรพงค์  แก้วสุวรรณ    รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส    วีรพงค์ แก้วสุวรรณ   
๒    นายเทียง  จันทร์ทอง    (แทน)ปลัดจังหวัดนราธิวาส    เทียง  จันทร์ทอง   
๓    นายวิเชษฐ  ภู่ใหม่    (แทน)โยธาฯ จว.นธ.    วิเชษฐ ภู่ใหม่   
๔    นางนงลักษณ์ ลิ่มทวีกูล    (แทน) นายแพทย์ สส.จ.นธ.    นงลักษณ์ ลิ่มทวีกูล    
๕    นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์     หน.สนง.จว.นธ.    สมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์   
๖    นายมนตรี  กรรทมาศ     ประกันสังคม จ.นธ.    มนตรี  กรรทมาศ   
๗    นางสมพร  แป้นคง          ประธานสภา ทม.นธ    สมพร  แป้นคง   
๘    นายธีรมัตถ์  แวยูโซ๊ะ    นายก ทต.บาเจาะ    ธีรมัตถ์  แวยูโซ๊ะ   
๙    นายนพพล  ถ้ำเจริญ        ปลัด ทม.สุไหงโก-ลก    นพพล  ถ้ำเจริญ   
๑๐    นายประพฤกษ์ นิลโมทย์    ปลัด ทต.รือเสาะ    ประพฤกษ์ นิลโมทย์   
๑๑    นายบัณฑิต พุฒวัจน์    ผู้ทรงคุณวุฒิ    บัณฑิต พุฒวัจน์   
๑๒    นายพินิจ  นัคเร    ผู้ทรงคุณวุฒิ    พินิจ  นัคเร   
๑๓    นายสมนึก เนื้อน้อย    ผู้ทรงคุณวุฒิ    สมนึก เนื้อน้อย    
๑๔    นายมณี  ยงประเดิม    ผู้ทรงคุณวุฒิ    มณี  ยงประเดิม    
๑๕    นายสาโรช  จันทโรจวงศ์    ผู้ทรงคุณวุฒิ    สาโรช  จันทโรจวงศ์   
๑๖    นายอุดม  แก้วเลี่ยม    ผู้ทรงคุณวุฒิ    อุดม  แก้วเลี่ยม   
๑๗    นายวิสูตร  เปี่ยมสุวรรณ    นสถ.ชก.    วิสูตร  เปี่ยมสุวรรณ   
๑๘    นางพัชรี  รอดพล    จพง.สถ.ชง.    พัชรี  รอดพล   

ไม่เข้าร่วมประชุม
๑. นางสาวนูรลีนา ยูนุสวังษา    ประธานสภา ทม.ตากใบ            ติดราชการ
๒. นายสมนึก จิตมงคล        นายกเทศมนตรีตันหยงมัส            ติดราชการ   
๓. นายอิสระ  ละอองสกุล      ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส            ติดราชการ


เมื่อถึงเวลา ๐๙.๐๐ น. นายวีรพงค์  แก้วสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เปิดประชุมคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖

ระเบียบวาระที่ ๑        ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
                ไม่มี

ระเบียบวาระที่ ๒        เรื่องรับรองรายงานการประชุม ก.ท.จ.นราธิวาส ครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (เอกสารหน้าที่ ๓๘ -๖๕)
เลขานุการฯ        ขอแก้ไขหน้าที่ ๔๕ ระเบียบวาระที่ ๕.๓ รายที่ ๓ นายสมศักดิ์ ขจรวีระธรรม  ตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน  ๙,๗๐๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๕  อัตราเงินเดือน ๑๐,๑๙๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส  เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ แก้ไขเป็น นายสมศักดิ์ ขจรวีระธรรม  ตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน  ๙,๗๐๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๕  อัตราเงินเดือน ๑๐,๗๐๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส  เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
มติที่ประชุม        รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

ระเบียบวาระที่ ๓        เรื่องติดตามการประชุม 
๓.๑ เทศบาลตำบลมะรือโบตกขอความเห็นชอบให้เทศบาลกำหนดส่วนราชการ จำนวน ๑ เทศบาล
            สืบเนื่องจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖  ได้พิจารณาการกำหนดส่วนราชการ ระดับฝ่าย  มีความเห็นว่าเทศบาลตำบลมะรือโบตก เป็นเทศบาลขนาดกลาง มีส่วนราชการในกองคลัง จำนวน ๑ ฝ่าย ๑ งาน คือฝ่ายบริหารงานคลัง และงานธุรการ มีอัตรากำลัง ในกองคลัง จำนวน  ๙ อัตรา แบ่งเป็นพนักงานเทศบาลจำนวน ๘ อัตรา (บรรจุแต่งตั้ง ๕ อัตรา) ว่างจำนวน ๓ อัตรา (หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง ๖, เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ๒-๔/๕ และช่างสำรวจ ๑-๓/๔) และมีลูกจ้างประจำ ๑ อัตรา สำหรับปริมาณงานในกองคลังเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ของเทศบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยตลอด  ฉะนั้น จึงให้เทศบาลกำหนดฝ่ายพัฒนารายได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งฝ่าย
สำหรับการกำหนดฝ่ายพัฒนารายได้ เทศบาลขอกำหนดตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนารายได้ (นักบริหารงานการคลัง ๖) เลขที่ตำแหน่ง ๐๔-๐๑๐๓-๐๐๓ เพิ่มขึ้นใหม่จำนวน ๑ ตำแหน่ง และขอตัดโอนตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ๖ว เลขที่ ๐๔-๐๓๐๙-๐๐๑ จากฝ่ายบริหารงานคลัง ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาเห็นว่ายังไม่มีความเหมาะสมเนื่องจาก เทศบาลมีภาระค่าใช้จ่ายเงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอื่น และเงินค่าจ้างของพนักงานจ้าง คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๑๐ % ควรให้เทศบาลดำเนินการ
โดยวิธีการเกลี่ยตำแหน่งที่ว่าง เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของเทศบาล  มติที่ประชุมจึงเห็นชอบให้เทศบาลตำบลมะรือโบตก ดำเนินการดังนี้
๑. กำหนดส่วนราชการเพิ่มขึ้นอีก ๑ ฝ่าย คือฝ่ายพัฒนารายได้ กองคลัง
๒. ให้เทศบาลพิจารณาปรับเกลี่ยตำแหน่งที่ว่างแล้วนำเสนอคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ในคราวต่อไป
และเทศบาลตำบลมะรือโบตก ได้ปรับเกลี่ยตำแหน่งที่ว่างพร้อมได้ส่งเอกสารการพิจารณาให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส พิจารณาแล้ว รายละเอียดตาม (เอกสารแนบท้าย)
เลขานุการ        เทศบาลตำบลมะรือโบตก ได้เสนอขอปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งช่างสำรวจ ระดับ ๑ – ๓/๔ เลขที่ ๐๔-๐๕๑๙-๐๐๒ ฝ่ายบริหารงานคลัง งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือโบตก เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนารายได้ (นักบริหารงานการคลัง ๖) เลขที่ ๐๔-๐๑๐๓-๐๐๓ ฝ่ายพัฒนารายได้ กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือโบตก
        คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและเห็นว่าตำแหน่งช่างสำรวจ ระดับ ๑ – ๓/๔ เป็นตำแหน่งว่างที่ไม่มีคนครอง และประกอบกับเทศบาลยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้ตำแหน่งดังกล่าว สำหรับภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรหมวดเงินเดือนค่าจ้างและประโยชน์ตอบแทนอื่นของเทศบาลตำบลมะรือโบตก คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๙๙  ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ระดับสูง ดังนั้น การที่เทศบาลปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งช่างสำรวจ ระดับ ๑ – ๓/๔ เลขที่ ๐๔-๐๕๑๙-๐๐๒ ฝ่ายบริหารงานคลัง งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือโบตก เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนารายได้ (นักบริหารงานการคลัง ๖) เลขที่ ๐๔-๐๑๐๓-๐๐๓ ฝ่ายพัฒนารายได้ กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือโบตก จึงมีความเหมาะสม
มติที่ประชุม        เห็นชอบให้เทศบาลปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งช่างสำรวจ ระดับ ๑ – ๓/๔ เลขที่ ๐๔-๐๕๑๙-๐๐๒ ฝ่ายบริหารงานคลัง งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือโบตก เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนารายได้ (นักบริหารงานการคลัง ๖) เลขที่ ๐๔-๐๑๐๓-๐๐๓ ฝ่ายพัฒนารายได้ กองคลัง เทศบาลตำบลมะรือ
โบตก
    ๓.๒ เทศบาลเมืองตากใบ ขอความเห็นชอบกำหนดตำแหน่งบุคลากร ๓ – ๕/๖ว จำนวน ๑ ตำแหน่ง
    คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ควรให้เทศบาลเมืองตากใบ ดำเนินการปรับเกลี่ยตำแหน่งว่าง ที่มีความจำเป็นน้อยเสียก่อน โดยการตัดโอนหรือปรับปรุงตัดโอนตำแหน่งว่าง แล้วนำเสนอคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส ในคราวต่อไป

    และเทศบาลเมืองตากใบ ได้ดำเนินการปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่ง ให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส พิจารณาแล้ว รายละเอียด(เอกสารแนบท้าย)
เลขานุการ        เทศบาลเมืองตากใบ ขอความเห็นชอบปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๑ – ๓/ ๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๑/๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ เป็นตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๓ – ๕/๖ว เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๘-๐๐๒ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ
        คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาสพิจารณาแล้ว เห็นว่าเทศบาลเมืองตากใบมีจำนวนบุคลากรทั้งหมด ๒๔๗ คน แยกเป็นพนักงานเทศบาล ๓๘ คน ลูกจ้างประจำ ๑๒ คน พนักงานจ้าง ๑๐๙ คน สำนักปลัดเทศบาลมีภารกิจรับผิดชอบและปริมาณงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานด้านบุคคลของเทศบาลเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องเป็นผู้ที่รอบรู้ด้านระเบียบกฎหมาย และต้องมีความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ ฉะนั้นหากมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๑ – ๓/๔ ทำหน้าที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการได้ ประกอบกับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ๑ – ๓/๔ เป็นตำแหน่งว่าง เทศบาลยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ และรายจ่ายหมวดเงินเดือนค่าจ้างและประโยชน์ตอบแทนอื่นคิดเป็นร้อยละ ๓๗.๔๗ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ระดับสูง ฉะนั้น เทศบาลควรปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๑ – ๓/ ๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๑/๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ เป็นตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๓ – ๕/๖ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๘-๐๐๒ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบจึงมีความเหมาะสมแล้ว
มติที่ประชุม        เห็นชอบให้เทศบาลปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ    ระดับ
๑ – ๓/ ๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๑/๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ เป็นตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๓ – ๕/๖ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๘-๐๐๒ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ
ระเบียบวาระที่ ๔        เรื่องเพื่อทราบ
๔.๑ รายงานผลการคัดเลือกพนักงานเทศบาลเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ดังนี้
คัดเลือก
จำนวน ๑๒ ตำแหน่ง ๙ เทศบาล  (เอกสารหน้าที่ ๖๖ - ๘๐)
สอบคัดเลือก
จำนวน ๓ ตำแหน่ง ๓ เทศบาล (เอกสารหน้าที่ ๘๑ – ๘๓)
มติที่ประชุม        รับทราบ ยกเว้นการสอบคัดเลือกในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ เทศบาลตำบลต้นไทร ให้แจ้งเทศบาลยกเลิกประกาศการสอบคัดเลือกตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ (นักบริหารงานทั่วไประดับ ๖) เนื่องจากเทศบาลไม่มีโครงสร้างและตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ (นักบริหารงานทั่วไป ๖)




๔.๒ พนักงานจ้างทั่วไปขอลาออกจากราชการ จำนวน ๒ ราย
๑. นางกัลยา  หมานจันทร์ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลสุคิริน ขอลาออกเพื่อประกอบอาชีพส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
๒. ว่าที่ร้อยตรีสุริน  อาแว พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป กองการศึกษา เทศบาลตำบลยี่งอ ขอลาออกเพื่อเข้ารับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต ๒ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
แนวทางตามหนังสือสำนักงาน ก.ท. และ ก.อบต. ที่ ๐๘๐๙.๒/ว ๑๐๕ 
ลงวันที่ ณ วันที่ ๑๓  ธันวาคม  ๒๕๔๗
เพื่อให้การปฏิบัติงานของพนักงานจ้างทั่วไปเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงให้นำแนวทางปฏิบัติตามมติ ก.ท. และ    ก.อบต. โดย ก.จังหวัด อาจพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นหลักการให้ เทศบาล ออกคำสั่งแต่งตั้งและพิจารณาให้พนักงานจ้างทั่วไปพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบก่อนทุกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
(๑) การพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากสิ้นสุดสัญญาการจ้าง
(๒) การพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากการลาออก
(๓) การต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้างทั่วไปคนเดิมซึ่งผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(๔) การแต่งตั้งพนักงานจ้างทั่วไปคนใหม่ให้ดำรงตำแหน่งที่ว่าง
มติที่ประชุม            รับทราบ
ระเบียบวาระที่ ๕        เรื่องพิจารณา จำนวน ๑๘ เรื่อง
๕.๑ ขอความเห็นชอบแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น เนื่องจากได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในสายงานนักบริหาร
คัดเลือก     จำนวน ๑๒  ตำแหน่ง      (เอกสารหน้าที่ ๘๔ – ๙๓)
สอบคัดเลือก     จำนวน   ๒  ตำแหน่ง     (เอกสารหน้าที่ ๙๔ – ๙๕)
                ระเบียบ/กฎหมาย
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๕  และ   มาตรา ๒๓
การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง  การย้าย  การโอน การรับโอนการเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดแต่สำหรับการออกคำสั่งแต่งตั้งและการให้พนักงานเทศบาลพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
ประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๑๘๙ การแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือก ให้นายกเทศมนตรีเป็นผู้เลื่อนและแต่งตั้งโดยได้รับความเห็นชอบจาก ก.ท.จ. และให้มีผลไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือก
หนังสือสำนักงาน ก.ท.ที่ มท ๐๘๐๙.๒/ว ๑๑๑  ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๒
    แนวทางการแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นโดยมีเงื่อนไขดังนี้
    ๑. วันที่แต่งตั้งไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
    ๒. วันที่ออกคำสั่งต้องไม่ก่อนวันที่ ก.ท.จ.ให้ความเห็นชอบ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
    ๓. วันที่แต่งตั้งต้องไม่ก่อนวันที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นซึ่งเป็นไปตามหลักข้อเท็จจริง
    ๔. บัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกต้องไม่หมดอายุ
มติที่ประชุม        เห็นชอบให้เทศบาลแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น
คัดเลือก จำนวน ๑๑ ราย รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายรายงานการประชุม
สอบคัดเลือก จำนวน ๒ ราย รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายรายงานการประชุม
โดยให้มีผลตามหนังสือสำนักงาน ก.ท.ที่ มท ๐๘๐๙.๒/ว ๑๑๑    ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
    ๑. วันที่แต่งตั้งไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
    ๒. วันที่ออกคำสั่งต้องไม่ก่อนวันที่ ก.ท.จ.ให้ความเห็นชอบ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
    ๓. วันที่แต่งตั้งต้องไม่ก่อนวันที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นซึ่งเป็นไปตามหลักข้อเท็จจริง
    ๔. บัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกต้องไม่หมดอายุ
๕.๒ ขอความเห็นชอบให้พนักงานจ้างตามภารกิจออกจากราชการ จำนวน ๑ อัตรา
๑. นางฤดีวรรณ สือรี  พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ทะเบียน สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลบูเก๊ะตา ขอลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เพื่อไปบรรจุเป็นข้าราชการ
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานจ้าง
ข้อ ๕๕ พนักงานจ้างผู้ใดประสงค์จะลาออกจากการปฏิบัติงาน ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัยฯ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลโดยอนุโลม
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๕  และ   มาตรา ๒๓
การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง  การย้าย   การโอน   การรับโอนการเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดแต่สำหรับการออกคำสั่งแต่งตั้งและการให้พนักงานเทศบาลพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
    ๕.๓ ขอความเห็นชอบให้เทศบาลจ้างพนักจ้างตามภารกิจ และพนักงานจ้างทั่วไป จำนวน  ๑๓ อัตรา ดังนี้
    ๑. นายปรีดี  อิสหัส  พนักงานจ้างจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วย
เจ้าพนักงานธุรการ อัตราค่าจ้าง  ๗,๔๖๐ บาท กองสาธารณสุขฯ เทศบาลตำบลมะรือโบตก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๒. นายอาหะมะ เต๊ะ พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งคนงานประจำรถขยะ อัตราค่าจ้าง ๖,๐๕๐ บาท กองสาธารณสุขฯ เทศบาลตำบลมะรือโบตก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๓. นายอิสมะแอ  เจ๊ะมิ พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งคนงานประจำรถขยะ อัตราค่าจ้าง ๖,๐๕๐ บาท กองสาธารณสุขฯ เทศบาลตำบลมะรือโบตก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๔. นายอับดุลเลาะห์ เจ๊ะซอ พนักงานจ้างภารกิจ ตำแหน่งคนงานประจำรถขยะ อัตราค่าจ้าง ๖,๐๕๐ บาท กองสาธารณสุขฯ เทศบาลตำบลมะรือโบตก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๕. นางสาวฮาซานะห์ วาสารี พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก อัตราเงินเดือน ๙,๑๔๐ บาท สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๖. นางสาวนอร์รีฮัน บินสาหะ พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก อัตราเงินเดือน ๙,๑๔๐ บาท สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๗. นางสาวโนรีแซ แซฮะ พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก อัตราเงินเดือน ๙,๑๔๐ บาท สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๘. นางสาวนายีบ๊ะ ดาโอะ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๙. นายมาสือลัน อาแว พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๑๐. นายนูรมาฮาดี ยูนุสวังษา พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๑๑. นายซูลกีปลี แวนาซา พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ กองช่าง เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๑๒. นางสาวอัสรีนา ยายอ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
    ๑๓. นางสาวฮาบีบ๊ะ หะยีคาเดร์ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป อัตราเงินเดือน ๕,๓๔๐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองตากใบ จ้างตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖
                ระเบียบกฎหมาย
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๕  และ   มาตรา ๒๓
การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง  การย้าย   การโอน   การรับโอนการเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดแต่สำหรับการออกคำสั่งแต่งตั้งและการให้พนักงานเทศบาลพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๔ ขอความเห็นชอบเลื่อนระดับพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในระดับควบ จำนวน  ๕  ตำแหน่ง (เอกสารหน้าที่ ๙๖ - ๑๐๐)
๑. นายวิเชียร จินดารัตน์  ตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๓ อัตราเงินเดือน ๙,๑๔๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน ๙,๒๑๐ บาท กองช่าง เทศบาลตำบลปาเสมัส เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๖
๒. นางสาวอาซือลีนา แวสะมะแอ ตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุ ระดับ ๓ อัตราเงินเดือน ๘,๙๓๐ บาท กองคลัง เทศบาลตำบลปาเสมัส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่ง
เจ้าพนักงานพัสดุ ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน ๘,๙๗๐ บาท กองคลัง เทศบาลตำบล
ปาเสมัส เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๖
๓. นางสาวฮายาตี เวาะและ  ตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๓ อัตราเงินเดือน ๘,๗๔๐ บาท สำนักปลัด เทศบาลตำบลบูเก๊ะตา ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งบุคลากร  ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน ๘,๗๔๐ บาท เทศบาลตำบลบูเก๊ะตา เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๖

๔. นางสาวสุพาณี แก้วขาว  ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๒  อัตราเงินเดือน ๗,๖๓๐ บาท สำนักปลัดเทศบาล  เทศบาลเมืองนราธิวาส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๓ อัตราเงินเดือน ๗,๗๓๐ บาท เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖
๕. นางภัทรนิษฐ์ ยอดไกร  ตำแหน่งนักวิชาการประชาสัมพันธ์ ระดับ ๓ อัตราเงินเดือน ๑๒,๘๑๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองนราธิวาส ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งนักวิชาการประชาสัมพันธ์   ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน ๑๓,๕๐๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองนราธิวาส เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ระเบียบ/กฎหมาย
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๕  และ   มาตรา ๒๓
การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง  การย้าย   การโอน   การรับโอน การเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดแต่สำหรับการออกคำสั่งแต่งตั้งและการให้พนักงานเทศบาลพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๕ ขอความเห็นชอบเลื่อนระดับพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นนอกระดับควบ (เลื่อนไหล) จำนวน  ๖  ตำแหน่ง (เอกสารหน้าที่ ๑๐๑ – ๑๐๖)
๑. นางสาวพรพิมล ทองเต็มดวง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ฯ ระดับ ๖วอัตราเงินเดือน ๑๕,๘๐๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ฯ  ระดับ ๗ว อัตราเงินเดือน ๑๖,๑๙๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก  เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
๒. นางสาวสโรชา  เกรียวกราว   ตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ฯ ระดับ ๖ว อัตราเงินเดือน ๑๕,๔๓๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน  เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขอเลื่อนเป็นตำแหน่ง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ฯ  ระดับ ๗ว อัตราเงินเดือน ๑๖,๑๙๐ บาท กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
๓. นางเนตรนภา ผอมเส้ง  ตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ระดับ ๔ อัตราเงินเดือน ๑๘,๗๙๐ บาท กองคลัง เทศบาลเมืองตากใบ ขอเลื่อนเป็นตำแหน่ง
เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้  ระดับ ๕  อัตราเงินเดือน ๒๐,๐๔๐ บาท กองคลัง เทศบาลเมืองตากใบ  เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
๔. นายสมชาย  เพชรนุ้ย  ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา ระดับ ๕ อัตราเงินเดือน ๑๓,๑๖๐ บาท กองการศึกษา เทศบาลตำบลสุคิริน ขอเลื่อนเป็นตำแหน่ง    นักวิชาการศึกษา ระดับ ๖ว อัตราเงินเดือน ๑๓,๑๖๐ บาท กองการศึกษา  เทศบาลตำบลสุคิริน เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๖
๕. นางสาวอาอีเซาะห์ สะมะเด็ง  ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ๕ อัตราเงินเดือน ๑๒,๕๓๐ บาท กองสำนักปลัด เทศบาลตำบลต้นไทร ขอเลื่อนเป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๖ว  อัตราเงินเดือน ๑๓,๑๖๐ บาท สำนักปลัด เทศบาลตำบลต้นไทร เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
๖. นางสาวจิตติกาญจน์ นะวงศ์  ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร ระดับ ๕ อัตราเงินเดือน ๑๒,๕๓๐ บาท สำนักปลัด เทศบาลตำบลรือเสาะ ขอเลื่อนเป็น ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนและบัตร ระดับ ๖ว อัตราเงินเดือน ๑๓,๑๖๐ สำนักปลัด เทศบาลตำบลรือเสาะ เลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖
ระเบียบ/กฎหมาย
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ และ   มาตรา ๒๓
การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง  การย้าย   การโอน   การรับโอน การเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นอำนาจของนายกเทศมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดแต่สำหรับการออกคำสั่งแต่งตั้งและการให้พนักงานเทศบาลพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๖ ขอความเห็นชอบให้พนักงานเทศบาลโอน  จำนวน  ๗  ราย (เอกสารหน้าที่ ๑๐๗ - ๑๑๒)
      ๑. นางฺสาวสุรีรัตน์ แสนยศ  ตำแหน่งนิติกร ระดับ ๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๘-๐๒๐๒-๐๐๑  อัตราเงินเดือน ๙,๒๑๐ บาท เทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอ      บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ขอโอนไปดำรงตำแหน่งนิติกร ระดับ ๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๒-๐๐๑  อัตราเงินเดือน ๙,๒๑๐ บาท อบต.แก่งโสภา  อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก หน่วยงานทั้งสองยินยอมให้โอนและรับโอน
     ๒. นายฐิติพันธ์ บุญเพิ่ม  ตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานเทศบาล ๗) เลขที่ตำแหน่ง ๐๐-๐๑๐๑-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๒๕,๙๗๐ บาท เทศบาลตำบล
ศรีสาคร อำเภอศรีสาคร  จังหวัดนราธิวาส ขอโอนไปดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาล
(นักบริหารงานเทศบาล ๘)  เลขที่ตำแหน่ง ๐๐-๐๑๐๑-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๒๗,๒๓๐ บาท เทศบาลตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โอนเนื่องจากได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น
      ๓.นางสาวอรุณี  กะนอง ตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๖ว เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๘-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๑๓,๕๓๐ บาท สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี  โอนมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ (นักบริหารงานทั่วไป ระดับ ๖) เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๘-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๑๓,๕๓๐ บาท สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลต้นไทร อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส  เป็นผู้สอบคัดเลือกได้ตามประการสอบคัดเลือกเทศบาลตำบลต้นไทร
     ๔. นายภาคิน สติรักษ์ พนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครู อันดับ คศ.๑  เลขที่ตำแหน่ง ๒๐๐๔๕-๒  อัตราเงินเดือน ๑๔,๒๒๐ บาท โรงเรียนเทศบาลพิบูลย์สวัสดี เทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ขอโอนมาดำรงตำแหน่งครู อันดับ คศ.๑ เลขที่ตำแหน่ง ๐๖๙๓๙-๒ อัตราเงินเดือน ๑๔,๒๒๐ บาท โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านทรายทอง) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อต้องการดูแลบุตรและครอบครัว หน่วยงานทั้งสองยินยอมให้โอนและรับโอน
     ๕. นางเตือนใจ สุวรรณ พนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครู อันดับ คศ.๑ เลขที่ตำแหน่ง ๑๖๑๐๕-๒ อัตราเงินเดือน ๑๕,๐๒๐ บาท โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านทรายทอง) เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ขอโอน ไปดำรงตำแหน่งครู อันดับ คศ ๑  เลขที่ตำแหน่ง ๒๘๙๓๕-๒ อัตราเงินเดือน ๑๕,๐๒๐ บาท โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ เทศบาลเมืองท่าข้าม  อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เพื่อกลับภูมิลำเนาเดิม และหน่วยงานทั้งสองแห่งยินยอมให้และรับโอน
     ๖. นางสาวประเยา บุญศิริ พนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครู อันดับ คศ.๑ เลขที่ตำแหน่ง ๑๒๐๘๗-๒ อัตราเงินเดือน ๑๓,๘๖๐ บาท โรงเรียนเทศบาล ๑ (ราษฎรบำรุง) เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ขอโอนไปดำรงตำแหน่งครู อันดับ คศ.๑ เลขที่ตำแหน่ง ๑๒๑๔๔-๒ อัตราเงินเดือน ๑๓,๘๖๐ บาท โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดนพวงศาราม) เทศบาลเมืองปัตตานี  อำเภอเมืองปัตตานีจังหวัดปัตตานี เพื่อกลับไปดูแลบิดามารดาและกลับภูมิลำเนาเดิม
     ๗. นางสาวชลธิชา สุวรรณกาญจน์ พนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งอันดับ คศ.๒ เลขที่ตำแหน่ง ๑๔๒๕๐-๒ อัตราเงินเดือน ๑๗,๙๗๐ บาท โรงเรียนเทศบาล ๑ (ราษฎรบำรุง) เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ขอโอนไปดำรงตำแหน่งครู อันดับ คศ.๒  อัตราเงินเดือน ๑๗,๙๗๐ บาท เลขที่ตำแหน่ง๐๕๔๘๙-๒ โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เพื่อกลับภูมิลำเนาเดิมและลดภาระค่าใช้จ่าย
ระเบียบ/กฎหมาย
           ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๑๖๗ ภายใต้บังคับข้อ ๑๕๒ เพื่อประโยชน์แก่ราชการ เทศบาลอาจโอนสับเปลี่ยนตำแหน่งพนักงานเทศบาลในตำแหน่งเดี่ยวกันได้ โดยความสมัครใจของพนักงานผู้โอน และนายกเทศมนตรีของเทศบาลที่เกี่ยวข้องได้ตกลงยินยอมในการโอนดังกล่าวแล้วให้เทศบาลที่เกี่ยวข้องเสนอขอความเห็นชอบต่อ ก.ท.จ. เมื่อ ก.ท.จ.ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้นายกเทศมนตรีออกคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิมและได้รับเงินเดือนในขั้นไม่สูงกว่าเดิม
    ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล (แก้ไขเพิ่มเติม) ประกาศ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
    ข้อ ๑๓๙ ในกรณีที่เทศบาลมีตำแหน่งบริหารและสายงานผู้บริหารสถานศึกษาว่างลงหรือตำแหน่งว่างเนื่องจากการกำหนดขึ้นใหม่ ให้เทศบาลรายงานตำแหน่งว่างนั้นให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลทราบภาย ๗ วัน นับแต่วันที่มีตำแหน่งว่างและให้เทศบาลดำเนินการสรรหาบุคคล เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ว่างภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่าง
    ในกรณีดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารและสายงานผู้บริหารสถานศึกษาที่ว่างตามวรรคหนึ่ง ให้เทศบาลพิจารณาดำเนินการวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือหลายวิธี ดังนี้
    (๑) รับโอนพนักงานเทศบาลตำแหน่งและระดับเดียวกับตำแหน่งที่ว่างจากเทศบาลอื่นหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นประเภทอื่น ที่อยู่ในสายงานนักบริหารในตำแหน่งและระดับเดียวกัน
    (๒) สอบคัดเลือกหรือการคัดเลือกเพื่อเลื่อนระดับสูงขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง
    (๓) คัดเลือกเพื่อรับโอนข้าราชการประเภทอื่น หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นประเภทอื่นซึ่งตำแหน่งที่มีลักษณะงานเทียบเคียงได้กับตำแหน่งบริหารที่จะรับโอน
    ข้อ ๑๕๒ การโอนพนักงานเทศบาลจากเทศบาลหนึ่งไปเทศบาลหนึ่งให้โอนในกรณีดังนี้
    (๑) ผู้สอบแข่งขันได้ หรือผู้สอบคัดเลือกได้ในตำแหน่งที่จะแต่งตั้งนั้น หรือ   ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น ฯลฯ
    (๒) ผู้ขอโอนตำแหน่งบริหารและสายงานผู้บริหารสถานศึกษาภายใน ๖๐ วันนับแต่วันที่ว่าง
    (๓) ผู้ขอโอนโดยการสับเปลี่ยนตำแหน่งในตำแหน่งเดียวกันและระดับเดียวกันระหว่างเทศบาล หรือผู้ขอโอนมาแต่งตั้งในตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานในเทศบาลตามข้อ ๑๖๗ ฯลฯ
มติที่ประชุม            เห็นชอบ ให้พนักงานเทศบาลโอน จำนวน ๖ ราย
ไม่เห็นชอบ ๑ ราย คือนางสาวอรุณี  กะนอง ตำแหน่งบุคลากร ระดับ ๖ ว เทศบาลตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดนราธิวาส มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ (นักบริหารงานทั่วไป ระดับ ๖) สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลต้นไทร อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
    ๕.๗ ขอความเห็นชอบย้ายเปลี่ยนสายงานพนักงานเทศบาลที่เริ่มต้นจากระดับ ๑ ไปเป็นสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ ๒ จำนวน ๑ ราย (เอกสารหน้า 113)
          ๑. นางปาณิศา  ถิ่นพระบาท ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๒ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๑-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๖,๖๓๐ บาท สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลต้นไทร ขอย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๒ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๑๑๑-๐๐๑ อัตราเงินเดือน ๖,๖๓๐ บาท สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบล ต้นไทร  เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
    ระเบียบ/กฎหมาย
           ประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๑๔๓  การย้ายพนักงานเทศบาลผู้ดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในต่างสายงาน ให้กระทำได้ในกรณีดังนี้
(๒) กรณีการย้ายสับเปลี่ยนสายงานจากตำแหน่งสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ ๑ ไปเป็นตำแหน่งสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ ๒ ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งในระดับเดียวกันและให้ได้รับเงินเดือนในขั้นเดิม ทั้งนี้ พนักงานเทศบาลผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้น ที่ ก.ท.กำหนด ไว้ในมาตรฐานกำหนด
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๘ ขอความเห็นชอบปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งพนักงานเทศบาล จำนวน
๑ ตำแหน่ง
เทศบาลตำบลปาเสมัส จำนวน ๑ ตำแหน่ง (เอกสารแนบท้าย)
๑. ขอปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ระดับ     ๒ – ๔/๕ เลขที่ตำแหน่ง ๐๔-๐๓๐๖-๐๐๑  กองคลัง  เทศบาลตำบลปาเสมัส เป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานทะเบียน ระดับ ๒ – ๔/๕ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๔-๐๐๑ สำนักปลัด  เทศบาลตำบลปาเสมัส
ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๒๑ การปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งพนักงานเทศบาล อาจเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งพนักงานเทศบาลได้
     ๒) การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่ง จะต้องดำเนินการเฉพาะตำแหน่งว่างที่ไม่มีคนครองตำแหน่งเท่านั้น เว้นแต่ในประกาศนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
    (ก) ปรับปรุงตำแหน่ง หมายถึง การปรับปรุงสายงานของตำแหน่ง แต่อยู่ในงานเดิม ส่วนราชการเดิม
            ฯลฯ

    (ฉ) ปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่ง หมายถึง การเกลี่ยตำแหน่งว่างจากงานหนึ่ง ไปไว้อีกงานหนึ่ง (ส่วนราชการเดียวกันหรือไม่ก็ได้) ซึ่งจะเป็นการปรับปรุง ทั้งชื่อตำแหน่งและเลขที่ตำแหน่ง เช่น เกลี่ยตำแหน่งนักวิชาการสุขาภิบาล ๓ – ๕ (๐๕-๒-๐๐๒) งานสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม กองสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมไปเป็นนักวิชาการคลัง ๓ – ๕ (๐๓-๒-๐๐๓) งานแผนที่ภาษี กองคลัง เป็นต้น
มติที่ประชุม            เห็นชอบ

    ๕.๙ ขอความเห็นชอบปรับปรุงตำแหน่งพนักงานเทศบาล จำนวน ๑ ตำแหน่ง (เอกสารแนบท้าย)
๑. ขอปรับปรุงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ระดับ ๑ – ๓/๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๐๖-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลปาเสมัส เป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๑ – ๓/๔ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๔-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลปาเสมัส
ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
    ข้อ ๒๒ การยุบเลิกตำแหน่งและการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งของพนักงานเทศบาล
        ๒) การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่ง จะต้องดำเนินการเฉพาะตำแหน่งว่างไม่มีคนครองตำแหน่งเท่านั้นเว้นแต่ประกาศนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
        (ก) ปรับปรุงตำแหน่ง
มิติที่ประชุม            เห็นชอบ
    ๕.๑๐ ขอความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ ๑ หรือ ระดับ ๒ ในกรณีที่ตำแหน่งนั้นมีผู้ดำรงตำแหน่งอยู่และผู้ครองตำแหน่งดังกล่าวมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในสายงานที่เริ่มต้นจาก ระดับ ๒
เทศบาลตำบลปาเสมัส จำนวน ๒ ตำแหน่ง  (เอกสารแนบท้าย)
๑. ขอปรับปรุงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ ๒ เลขที่ตำแหน่ง๐๑-๐๒๒๑-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล  เทศบาลตำบลปาเสมัส เป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ ๒  เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๒๒-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลปาเสมัส
๒. ขอปรับปรุงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ ๒ เลขที่ตำแหน่ง ๐๕-๐๒๑๑-๐๐๑ กองการศึกษา เทศบาลตำบลปาเสมัส เป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๒ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๒-๐๐๒ กองการศึกษา เทศบาลตำบลปาเสมัส
ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๒๒ (๙) การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ ๑ หรือ ระดับ ๒ ในกรณีที่ตำแหน่งนั้นมีผู้ดำรงตำแหน่งอยู่และผู้ครองตำแหน่งดังกล่าวมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นในสายงานที่เริ่มต้นจาก ระดับ ๒ ก็ให้สามารถปรับปรุงตำแหน่งได้
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๑๑ ขอความเห็นชอบปรับขยายตำแหน่งพนักงานเทศบาล จำนวน ๒ ตำแหน่ง ๒ เทศบาล
เทศบาลตำบลปาเสมัส จำนวน ๑ ตำแหน่ง (เอกสารแนบท้าย)
     ๑.ขอปรับขยายตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ  ระดับ ๒ – ๔/๕ เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๒-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลปาเสมัส  เป็นตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับ ๖ว เลขที่ตำแหน่ง ๐๑-๐๒๑๒-๐๐๑ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลปาเสมัส
เทศบาลตำบลต้นไทร จำนวน ๑ ตำแหน่ง (เอกสารแนบท้าย)
๑. ขอปรับขยายตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายศาสนา วัฒนธรรมและการกีฬา      (นักบริหารการศึกษา ๖) เลขที่ตำแหน่ง ๐๘-๐๑๐๘-๐๐๓ กองการศึกษา เทศบาลตำบลต้นไทร เป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายศาสนา วัฒนธรรมและการกีฬา (นักบริหารการศึกษา ๗) เลขที่ตำแหน่ง ๐๘-๐๑๐๘-๐๐๓ กองการศึกษา เทศบาลตำบลต้นไทร
ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๒๒ การยุบเลิกตำแหน่งและการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งของพนักงานเทศบาล
    ๒) การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่ง จะต้องดำเนินการเฉพาะตำแหน่งว่างไม่มีคนครองตำแหน่งเท่านั้นเว้นแต่ในประกาศนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
    (ข) ปรับขยายระดับตำแหน่ง หมายถึง การปรับขยายระดับตำแหน่งในสายงานเดิมสังกัดงานและส่วนราชการเดิม เช่นปรับขยายระดับ
ข้อ ๒๔ ในระหว่างประกาศใช้บังคับแผนอัตรากำลังของเทศบาล หากเทศบาลมีเหตุผลความจำเป็นต้องปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง เพื่อรองรับภารกิจ หน้าที่ความรับผิดชอบ ลักษณะงาน หรือปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ให้เทศบาลเสนอขอปรับปรุงกำหนดตำแหน่งต่อคณะกรรมการพนักงานเทศบาลเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ข้อ ๒๖ เมื่อเทศบาลได้รับความเห็นชอบในการปรับปรุงกำหนดตำแหน่งแล้วให้ถือว่าเป็นการปรับปรุงแผนอัตรากำลังของเทศบาลนั้น โดยให้เทศบาลดำเนินการแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดในแผนอัตรากำลังของเทศบาลต่อไป
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
    ๕.๑๒ ขอความเห็นชอบให้พนักงานครูเทศบาลให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
    เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน ๒ ราย คือ (เอกสารหน้า 114)
    ๑. นางกุลวดี  สะลีละ         ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
    ๒. นางเจียมจิตร สระชิต      ตำแหน่งครู อับดับ คศ.๒ ชำนาญการ
    เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน ๑ ราย (เอกสารหน้าที่ 115)
    ๑. นายประคิ่น ศรีทวี        ตำแหน่ง ครู อับดับ คศ.๒

ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประเมินผลงานพนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษาเทศบาล เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ลงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๐
หลักเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
                 ผู้ยื่นคำขอต้องผ่านการประเมิน ๓ ด้าน
๑. ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
- การมีวินัย
- การประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
- การดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม
- ความรักและศรัทธาในวิชาชีพ
- ความรับผิดชอบในวิชาชีพ    
๒. ด้านคุณภาพการปฏิบัติงาน โดยพิจารณาจากสมรรถนะในการปฏิบัติงาน
ดังนี้
    ๑) สมรรถนะหลัก
- การมุ่งผลสัมฤทธิ์
- การบริการที่ดี
- การพัฒนาตนเอง
- การทำงานเป็นทีม
    ๒) สมรรถนะประจำสายงาน
- การออกแบบการเรียนรู้
- การพัฒนาผู้เรียน
- การบริหารจัดการชั้นเรียน         
๓. ด้านผลที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการเรียน การสอน โดยพิจารณา
จาก

    ๑) ผลการปฏิบัติงาน
- การจัดการเรียนรู้
- การพัฒนาวิชาการ
- ผลที่เกิดกับผู้เรียน
                    ๒) ผลงานทางวิชาการไม่น้อยกว่า ๑ รายการ
หลักเกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินต้องได้คะแนนแต่ละด้านดังนี้
ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพและด้านคุณภาพการปฏิบัติงานผลการประเมินแต่ละด้านต้องได้คะแนนจากกรรมการทั้ง ๓ คน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐
ด้านผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ผู้ที่ผ่านการประเมินจะต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ดังนี้
- ผลการปฏิบัติงาน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๕
- ผลงานทางวิชาการ ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๕
- คะแนนรวม ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการประเมิน จะต้องมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์เป็นเอกฉันท์โดยเป็นเอกฉันท์ทั้งส่วนที่เป็นผลการปฏิบัติงาน ผลการทางวิชาการ และคะแนนรวม
ให้สำนักงาน ก.ท.จ. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอรับการประเมินและดำเนินการประเมินให้เป็นไปตามที่ ก.ท.กำหนด รวมถึงความสมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วน ของผลงาน แล้วนำส่งคณะกรรมการประเมินตามที่ ก.ท.กำหนด                   
การแต่งตั้ง
ให้นายกเทศมนตรีโดยความเห็นชอบของ ก.ท.จ.ออกคำสั่งแต่งตั้งพนักงานครูเทศบาลผ่านการประเมินโดยมีหรือเลื่อนได้ไม่ก่อนวันที่ผ่านการประเมินของคณะกรรมการประเมิน
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๑๓ ขอความเห็นชอบปรับปรุงตำแหน่งพนักงานครูเทศบาล จำนวน ๒ เทศบาล
- เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน ๒ ตำแหน่ง     (เอกสารหน้าที่ ๑๑๖)
- เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน ๑ ตำแหน่ง     (เอกสารหน้าที่ ๑๑๗)
ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
ข้อ ๒๔ ในระหว่างประกาศใช้บังคับแผนอัตรากำลังของเทศบาล หากเทศบาลมีเหตุผลความจำเป็นต้องปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง เพื่อรองรับภารกิจ หน้าที่ความรับผิดชอบ ลักษณะงาน หรือปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ให้เทศบาลเสนอขอปรับปรุงกำหนดตำแหน่งต่อ ก.ท.จ.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ข้อ ๒๖ เมื่อเทศบาลได้รับความเห็นชอบในการปรับปรุงกำหนดตำแหน่งแล้วให้ถือว่าเป็นการปรับปรุงแผนอัตรากำลังของเทศบาลนั้น โดยให้เทศบาลดำเนินการแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดในแผนอัตรากำลังของเทศบาลต่อไป
มติที่ประชุม            เห็นชอบ รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายรายงานการประชุม
๕.๑๔ ขอความเห็นชอบให้เทศบาลตำบลปาเสมัสกำหนดตำแหน่งพนักงานจ้างทั่วไป จำนวน  ๘ อัตรา (เอกสารแนบท้าย)
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๗
ข้อ ๕ ในการกำหนดตำแหน่งของพนักงานจ้าง ให้เทศบาลกำหนดและเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
การกำหนดตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้จำแนกตำแหน่งตามลักษณะงาน
ข้อ ๑๒ การกำหนดจำนวนพนักงานจ้าง ให้เทศบาลจัดทำเป็นกรอบอัตรากำลังโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพนักงานเทศบาล โดยพิจารณาถึงการใช้กำลังคนในภาพรวมของเทศบาล ให้มีความเหมาะสมสำหรับแนวทางในการจัดทำกรอบอัตรากำลังพนักงานจ้าง ให้นำแนวทางและแบบในการจัดทำแผนอัตรากำลังสามปีของเทศบาลมาใช้โดยอนุโลม
มติที่ประชุม            เห็นชอบ รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายรายงานการประชุม
    ๕.๑๕ ขอความเห็นชอบปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งพนักงานจ้าง จำนวน ๑ ตำแหน่ง (เอกสารแนบท้าย)
ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนราธิวาส เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๗
    ข้อ ๗ ให้เทศบาลจัดทำกรอบอัตรากำลังพนักงานจ้างเป็นระยะเวลาสี่ปี โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิบัติราชการของเทศบาลและงบประมาณ ทั้งนี้ตามแนวทางการจัดกรอบอัตรากำลังพนักงานจ้างที่กำหนด
                ฯลฯ
    ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น เทศบาลอาจขอเปลี่ยนกรอบอัตรากำลังพนักงานจ้างได้โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานเทศบาล
มติที่ประชุม            ไม่เห็นชอบให้เทศบาลตำบลปาเสมัสปรับปรุงและตัดโอนตำแหน่งพนักงาน
จ้างตามภารกิจ (ผช.พนง.ขับรถยนต์) เป็นพนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานทั่วไป แต่หากเทศบาลมีความจำเป็นให้ขอกำหนดตำแหน่งพนักงานจ้างทั่วไปเพิ่มอีก ๑ ตำแหน่ง
    ๕.๑๖ ขอความเห็นชอบยุบเลิกตำแหน่งลูกจ้างประจำ จำนวน ๑ ตำแหน่ง
            เทศบาลตำบลแว้งรายงานขอความเห็นชอบยุบเลิกตำแหน่งลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ เนื่องจากพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วยเหตุถึงแก่กรรม
    ระเบียบ/กฎหมาย
ประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการ
บริหารงานบุคคลของพนักงานเทศบาล ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
     ข้อ ๓๙๕ ตำแหน่งลูกจ้างของเทศบาลที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งกำหนดตำแหน่งนอกเหนือจากตำแหน่งที่ ก.ท.กำหนด หากตำแหน่งว่างให้ยุบเลิก
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
๕.๑๗ ขอความเห็นชอบยุบเลิกตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก จำนวน  ๓ ตำแหน่ง
เทศบาลเมืองตากใบได้บรรจุแต่งตั้งพนักงานจ้างทั่วไปซึ่งเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันเป็นพนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก จำนวน ๒ ตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ คือ
๑.    นางซาฮารา ยาลี          เลขที่ตำแหน่ง ๙๖-๒-๐๑๓๕
๒.    นางโนรริสละห์ สะโอง     เลขที่ตำแหน่ง ๙๖-๒-๐๑๓๖
๓.    นางแวนรมา สะมะแอ    เลขที่ตำแหน่ง ๙๖-๒-๐๑๓๗

เทศบาลเมืองตากใบ จึงขอยุบเลิกตำแหน่งพนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งผู้ดูแล
เด็ก จำนวน ๓ ตำแหน่ง
หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท ๐๘๐๙.๓/ว ๑๒๔๙ ลงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ กำหนดว่าเมื่อเทศบาลบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็กแล้วให้ยุบเลิกตำแหน่งพนักงาจ้างเดิมของผู้ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง
มติที่ประชุม            เห็นชอบ
    ๕.๑๘ การดำเนินการทางวินัยพนักงานเทศบาลและพนักงานจ้างของเทศบาล จำนวน ๓ ราย
๑. การดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้างเทศบาลตำบลสุคิริน ราย
นายมามะ  เจ๊ะมูดอ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลเบา (พนักงานขับรถขนขยะ)
เรื่องเดิม
ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการทางวินัยและการให้ออกจากราชการ ครั้งที่ ๔ /๒๕๕๕ เมื่อวันที่  ๑๔  ก.ย. ๒๕๕๕ คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาเรื่องการดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้างเทศบาลตำบลสุคิริน รายนายมามะ เจ๊ะมูดอ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลเบา (พนักงานขับรถขนขยะ)  กรณีกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.สุคิริน ได้มีหนังสือ (บันทึกข้อความ) ที่ นธ ๖๒๑๐๔/ ๑๔ ลว. ๓ ก.พ.๒๕๕๕ รายงานต่อนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน ว่า นายมามะ  เจ๊ะมูดอ  ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์บรรทุกขยะ กองสาธารณสุขฯ ไม่มาปฏิบัติงานโดยไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. ๒๕๕๕ เป็นต้นมา รวมเวลา ๙ วันทำการ  ไม่มาปฏิบัติงานตามคำสั่งนอกเวลาในวันที่ ๒๖ ม.ค.๒๕๕๕ และไม่อยู่เวรยามตามคำสั่งเวรยามสถานที่ราชการในวันที่ ๑๙, ๒๕, ๓๑ ม.ค.๒๕๕๕ และนายมามะ  เจ๊ะมูดอ ได้เคยถูก ทต.สุคิริน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อ ๑๙ ต.ค.๒๕๕๔ และถูกลงโทษว่ากล่าวตักเตือนในความผิดหลีกเลี่ยงการปฏิบัติในหน้าที่ โดยคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วสรุปผลการสอบสวนและรายงานผลการสอบสวนต่อนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ ๔ พ.ค.๒๕๕๕ สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ  ได้แจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ถูกกล่าวหาได้ จึงได้แจ้งให้ นายจรัญ  เจ๊ะมูดอ บิดาของผู้ถูกกล่าวหา ให้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาทราบ เพื่อมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแต่ประการใด คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วได้ความว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ละทิ้งหน้าที่หรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันจริง การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติงานและไม่ได้มาเซ็นชื่อในบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของลูกจ้าง แต่อยู่ในพื้นที่ เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คณะกรรมการสอบสวนฯ เห็นว่าหลักฐานที่ควรนำมาพิจารณาประกอบด้วยบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของลูกจ้าง ทต.สุคิริน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. – ๒ ก.พ.๒๕๕๕ รวม ๑๐ วันทำการ จึงเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันจึงถือว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ข้อ ๔๙ (๖)  นายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน จึงได้ส่งเรื่องให้ ก.ท.จ.นราธิวาสพิจารณาไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกต่อไป
                                ๒. คณะอนุกรรมการพิจารณาการดำเนินการสอบสวนทางวินัยของ ทต.
สุคิริน พิจารณาแล้ว มีความเห็นแยกได้เป็น ๒ ประเด็น  ดังนี้
(๑) ตามกระบวนการสอบสวนนายกเทศมนตรีฯ ได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ปรากฏผลการส่งว่า “ไม่มารับภายในกำหนด” และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนฯ แจ้งให้  ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา และแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ปรากฏผลการส่งว่า “ย้าย/ไม่ทราบที่อยู่ใหม่” คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา และแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เป็นครั้งที่ ๒ โดยส่งทางไปรษณีย์ตอบรับด่วนพิเศษ ฝากให้นายจรัญ  เจ๊ะมูดอ (บิดาผู้ถูกกล่าวหา) ส่งต่อให้ผู้ถูกกล่าวหา และมีการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา โดยส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ฝากให้นายจรัญ  เจ๊ะมูดอ (บิดาผู้ถูกกล่าวหา) ส่งต่อให้ผู้ถูกกล่าวหา คณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการทางวินัยฯ จึงเห็นว่ากระบวนการแจ้งคำสั่ง การแจ้งข้อกล่าวหา การแจ้งขอกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา และการแจ้งให้ผู้กล่าวหามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ยังไม่อาจถือได้ว่าได้มีการส่งให้ผู้ถูกกล่าวหาอย่างถูกต้อง เนื่องจากปรากฏตามหลักฐานการส่งทางไปรษณีย์ว่า “ย้าย/ไม่ทราบที่อยู่” และไม่ปรากฏว่าเทศบาลได้มีการตรวจสอบทางทะเบียนราษฎรเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกกล่าวหาได้มีการย้ายที่อยู่จริงหรือไม่ อย่างไร ปรากฏที่อยู่แห่งใหม่ตามทะเทียนราษฎรอยู่ที่ใด และภายหลังจากนั้นคณะกรรมการฯ มีการแจ้งเรื่องต่างๆ ให้กับผู้ถูกกล่าวหาก็จะส่งโดยการฝากส่งทางนายจรัญ  เจ๊ะมูดอ ซึ่งเป็นบิดา ประกอบกับเมื่อพิจารณาตามหลักฐานการสอบสวนปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหามีที่อยู่ที่บ้านเลขที่ ๑๑๒/๑ หมู่ที่ ๖ ตำบลมาโมง อำเภอสุคิริน ส่วนนายจรัญฯ อยู่บ้านเลขที่ ๒๕ หมู่ที่ ๑ ตำบลเกียร์ อ.สุคิริน จึงอาจเป็นข้อโต้แย้งได้ในภายหลังว่าคณะกรรมการฯ ไม่ได้แจ้งหรือจัดส่งให้กับผู้ร้องตามวิธีการตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์  ดังนั้น จึงเห็นควรให้ ทต.สุคิริน ตรวจสอบที่อยู่ของผู้ถูกกล่าวหาตามข้อมูลทางทะเบียนราษฎร แล้วให้แจ้งคำสั่ง (แบบ สว.๑) แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาหรือจัดส่งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา (แบบ สว.๒) แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาหรือส่งแบบบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา(แบบ สว.๓) แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกกล่าวหาตามที่อยู่ทางทะเบียนราษฎร โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ทั้งนี้ เมื่อล่วงพ้น ๑๕ วันนับแต่ได้จัดส่งก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับการแจ้งแล้วตามข้อ ๔๔ และ ๔๕ แห่งประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน  การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
๒. ตามแนวทางการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ เห็นว่าคณะกรรมการสอบสวนฯ ใช้บัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของลูกจ้าง ทต.สุคิริน 
ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๕ รวม ๑๐ วันทำการ เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการพิจารณาและมีความเห็นว่าผู้ถูกกล่าวกระทำการละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณาเห็นว่าข้อมูลที่ปรากฏตามบัญชีการลงเวลาการปฏิบัติราชการดังกล่าว รับฟังได้เพียงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มีการลงลายมือชื่อในบัญชีการลงเวลาปฏิบัติราชการเท่านั้น แต่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นใดที่จะใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มาปฏิบัติราชการในวันดังกล่าว ซึ่งการไม่ลงลายมือชื่อในบัญชีการลงเวลาปฏิบัติราชการกับการไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญในการกำหนดฐานความผิดและการกำหนดบทลงโทษ จึงเห็นควรให้ ทต.สุคิรินได้มีการสอบถ้อยคำบุคคลต่าง ๆ เช่น เพื่อนร่วมงาน บุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในระหว่างวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๕ ผู้ถูกกล่าวหาได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไม่ อย่างไร และเพราะเหตุใด เพื่อให้ได้ข้อมูลเพียงพอที่จะพิจารณาได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามามาปฏิบัติราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือไม่ อย่างไร
๓. ก.ท.จ.นราธิวาส ได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๐ ต.ค.๒๕๕๕ มีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ และได้แจ้งให้ ทต.สุคิริน  ดำเนินการตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ
                                ข้อเท็จจริง
          ทต.สุคิรินแจ้งว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบที่อยู่ของผู้ถูกกล่าวหาตามข้อมูลทะเบียนราษฎรแล้ว และได้แจ้ง แบบ สว.๑ สว.๒ และ สว.๓ ให้ผู้ถูกกล่าวหาตามที่อยู่ดังกล่าว พร้อมทั้งได้สอบถ้อยคำบุคคลเพิ่มเติม ตามมติ ก.ท.จ.นราธิวาส แล้ว ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการฯ จึงได้เสนอรายละเอียดการดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้าง ทต.สุคิริน รายนายมามะ  เจ๊ะมูดอ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลเบา (พนักงานขับรถขนขยะ) ดังนี้
๑. กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.สุคิริน ได้มีหนังสือรายงานต่อนายกเทศมนตรีตำบลสุคิรินว่า นายมามะ  เจ๊ะมูดอ ไม่มาปฏิบัติงานโดยไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. ๒๕๕๕ เป็นต้นมา รวมเวลา ๙ วันทำการ  ไม่มาปฏิบัติงานตามคำสั่งนอกเวลาในวันที่ ๒๖ ม.ค.๒๕๕๕ และไม่อยู่เวรยามตามคำสั่งเวรยามสถานที่ราชการในวันที่ ๑๙, ๒๕, ๓๑ ม.ค.๒๕๕๕
๒. ทต.สุคิริน ได้มีคำสั่งที่ ๒๕/๒๕๕๕ ลว. ๙ ก.พ.๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ประกอบด้วยกรรมการจำนวน ๔ คน   เพื่อดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับนายมามะ  เจ๊ะมูดอ กรณีถูกกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในเรื่องการละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินเจ็ดวัน 
๓. ข้อกล่าวหา ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในเรื่องการละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินเจ็ดวัน
๔. นายกเทศมนตรีฯ แจ้งคำสั่งให้คณะกรรมการฯ ทราบ ตามหนังสือ (บันทึกข้อความ) ที่ นธ ๖๒๑๐๑/    ลว. ๑๐ ก.พ.๒๕๕๕
๕. นายกเทศมนตรีฯ แจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาตามหนังสือ ทต.สุคิริน ที่ นธ ๖๒๑๐๑/๔๗๙ ลว. ๓๐ ต.ค.๒๕๕๕ โดยส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ไปยังที่อยู่เลขที่ ๑๑๒/๑ ม.๖ ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส  ผลการส่งไม่ปรากฏผู้รับ โดยไปรษณีย์ระบุว่า “ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่” (แจ้งใหม่ให้เป็นไปตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส)
๖. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา และแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ในวันที่ ๒๙ พ.ย.๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. แจ้งตามหนังสือ ทต.สุคิริน ที่ นธ ๖๒๑๐๑/๕๑๓ ลว. ๑๙ พ.ย.๒๕๕๕ โดยส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ตามที่อยู่เลขที่ ๑๑๒/๑ ม.๖ ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส  ผลการส่งไม่ปรากฏผู้รับ โดยไปรษณีย์ระบุว่า “ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่” (แจ้งใหม่ให้เป็นไปตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส)
๗. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา สรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา  และแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เป็นครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๒๐ ธ.ค.๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๓๐ น.  แจ้งตามหนังสือ ทต.สุคิริน ที่ นธ ๖๒๑๐๑/๕๗๑ ลว. ๑๑ ธ.ค.๒๕๕๕ โดยส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ไปยังที่อยู่เลขที่ ๑๑๒/๑ ม.๖ ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส  ผลการส่งไม่ปรากฏผู้รับ โดยไปรษณีย์ระบุว่า “ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่” (แจ้งใหม่ให้เป็นไปตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส)
                                     ๘. คณะกรรมการสอบสวนฯ สอบถ้อยคำบุคคลจำนวน ๓ ราย ดังนี้
             (๑) วันที่ ๑ พ.ย.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายพงษ์เทพ  อ่อนหนู ตำแหน่ง ลูกจ้างประจำ ทต.สุคิริน ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานจ้าง กองสาธารณสุขฯ ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๕ ถึงปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยมาปฏิบัติหน้าที่ราชการเลย ผู้ให้ถ้อยคำจึงให้นายจีรศักดิ์  จันทรพงศ์ ขับรถขยะแทน ผู้ให้ถ้อยคำทราบจากเพื่อนร่วมงานว่าในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติงาน บางครั้งผู้ถูกกล่าวหาไปเยี่ยมบุตรสาวที่ประเทศมาเลเซีย ผู้ให้ถ้อยคำได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้ถูกกล่าวหาเป็นประจำ
(๒) วันที่ ๑ พ.ย.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายมามะ  การียา ตำแหน่ง พนักงานจ้างทั่วไป ทต. สุคิริน ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๕ ถึงปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยมาปฏิบัติหน้าที่ราชการเลย ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติหน้าที่ทุกวันตามคำสั่งมอบหมายของเทศบาล เวลามาปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด มาสายเป็นประจำ โดยมาเวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. หรือบางวันก็ไม่มาทำงาน และเมื่อทำหน้าที่ขับรถขยะเสร็จก็จะเดินทางกลับทันที และภาคบ่ายส่วนใหญ่จะไม่มาทำงาน ผู้ให้ถ้อยคำไม่ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไปไหนในวันที่ไม่มาทำงาน ทราบเพียงบางครั้งว่าผู้ถูกกล่าวหาไปเยี่ยมดูแลบุตรสาวที่ประเทศมาเลเซีย ในการปฏิบัติงานของผู้ให้ถ้อยคำและผู้ถูกกล่าวหามีนายพงษ์เทพ  หนูอ่อน เป็นผู้กำกับดูแล
(๓) วันที่ ๑ พ.ย.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายมาหะมะ  ดือราแม ตำแหน่ง พนักงานจ้างทั่วไป ทต.สุคิริน ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๕ ถึงปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยมาปฏิบัติหน้าที่ราชการเลย ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติหน้าที่ทุกวันตามคำสั่งมอบหมายของเทศบาล เวลามาปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด มาสายเป็นประจำ โดยมาเวลาประมาณ ๙.๔๕ น. หรือบางวันก็ไม่มาทำงาน และเมื่อทำหน้าที่ขับรถขยะเสร็จก็จะเดินทางกลับทันที และภาคบ่ายส่วนใหญ่จะไม่มาทำงาน ผู้ให้ถ้อยคำไม่ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไปไหนในวันที่ไม่มาทำงาน ทราบแต่ว่าผู้ถูกกล่าวหาอยู่ใน   อ.สุไหงโก-ลก ในการปฏิบัติงานของผู้ให้ถ้อยคำและผู้ถูกกล่าวหามีนายพงษ์เทพ  หนูอ่อน เป็นผู้กำกับดูแล
                                     ๙. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
                (๑) สำเนาบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของข้าราชการ จำนวน ๑๓ วันทำการ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. – ๓ ก.พ.๒๕๕๕  โดยไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้มาลงชื่อปฏิบัติราชการ ดังนี้
                                  - เดือน ม.ค.๒๕๕๕  วันที่ ๒๐, ๒๑, ๒๒, ๒๔, ๒๕, ๒๖, ๒๖, ๒๗, ๓๐,๓๑
                                  - เดือน ก.พ.๒๕๕๕  วันที่ ๑, ๒, ๓
(๒) แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร จากฐานข้อมูลการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง (ท.ร.๑๔/๑) ลว. ๒๙ ต.ค.๒๕๕๕ สรุปข้อมูลได้ว่า นายมามะ  เจ๊ะมูดอ เลขประจำตัวประชาชน ๕-๙๖๐๙-๐๐๐๑๖-๗๐-๔ ที่อยู่ ๑๑๒/๑ ม.๖ ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เข้ามาอยู่เมื่อ ๒ พ.ค.๒๕๕๔
๑๐. คณะกรรมการสอบสวนฯ สรุปผลการสอบสวนและรายงานผลการสอบสวนต่อนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ ๔ พ.ค.๒๕๕๕ สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ  ได้แจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ถูกกล่าวหาได้ จึงได้แจ้งให้นายจรัญ  เจ๊ะมูดอ บิดาของผู้ถูกกล่าวหา ให้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาทราบ เพื่อมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแต่ประการใด คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วได้ความว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ละทิ้งหน้าที่หรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันจริง การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติงานและไม่ได้มาเซ็นชื่อในบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของลูกจ้าง แต่อยู่ในพื้นที่ เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คณะกรรมการสอบสวนฯ เห็นว่าหลักฐานที่ควรนำมาพิจารณาประกอบด้วยบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของลูกจ้าง ทต.สุคิริน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. – ๒ ก.พ.๒๕๕๕ รวม ๑๐ วันทำการ จึงเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ข้อ ๔๙ (๖)  นายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน จึงได้ส่งเรื่องให้ ก.ท.จ.นราธิวาสพิจารณาไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกต่อไป
๑๑. คณะกรรมการสอบสวนฯ สรุปผลการสอบสวนเพิ่มเติม และรายงานผลการสอบสวนต่อนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ ธ.ค.๒๕๕๕ สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ เห็นว่าจากการสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งคำสั่ง (แบบ สว.๑) แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ส่งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา (แบบ สว.๒) แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา (แบบ สว.๓) แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกกล่าวหาตามที่อยู่ทางทะเบียนราษฎร คณะกรรมการสอบสวนได้ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอย่างเป็นธรรมแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ดังนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ข้อ ๔๙ (๖)  จึงเห็นควรลงโทษให้ไล่ออก ตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ข้อ ๔๘ (๔)  และนายกเทศมนตรีตำบลสุคิรินได้มีความเห็นว่า “เห็นตามคณะกรรมการเสนอ แจ้ง ก.ท.จ.ต่อไป”
๑๒. ระยะเวลาการสอบสวน ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ก.พ. - ๔ พ.ค.๒๕๕๕ รวมเวลา ๘๔ วัน
๑๓. ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม : นายมามะ  เจ๊ะมูดอ ผู้ถูกกล่าวหาได้มีหนังสือถึง ผวจ.นราธิวาส ร้องทุกข์/ร้องเรียน ขอความเป็นธรรม ลว. ๒๒ พ.ค.๒๕๕๕ สรุปความได้ว่า ถูกผู้บังคับบัญชาให้หยุดงานโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และไม่ทราบสาเหตุว่าผู้บังคับบัญชาให้ลาออกเพราะสาเหตุใด เพราะมิได้มีการบอกกล่าวหรือตักเตือนเป็นหนังสือแต่อย่างใด เพียงแต่พูดด้วยวาจาว่าไม่ให้ผู้ร้องทำงานแล้วโดยไม่ได้รับเงินเดือนตั้งแต่ ก.พ.๒๕๕๕ เป็นต้นมา โดยที่ผู้ร้องยังไม่มีการลาออก จังหวัดจึงแจ้งให้ อ.สุคิริน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย
อ.สุคิริน ได้รายงานว่า ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแล้วสรุปได้ว่า นายมามะ  เจ๊ะมูดอ ตำแหน่งพนักงานจ้างตามภารกิจ ขับรถขยะของ ทต.สุคิริน ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบบ่อยครั้ง ขาดการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่บอกหรือแจ้งให้ทราบ ทต.
สุคิริน ได้ตักเตือนด้วยวาจามาโดยตลอด แต่ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ทำให้ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องรถเก็บขยะไม่ไปเก็บขยะตามเวลา จึงได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ ๑๘ ต.ค.๒๕๕๔ ซึ่งนายมามะฯ ได้รับปากว่าจะไม่ประพฤติตัวเช่นนั้นอีก ต่อมาเดือน ม.ค.๒๕๕๕ นายมามะฯ มีพฤติกรรมเหมือนเดิมไม่มาทำงาน ๙ วันทำการ โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีการลาใด ๆ ทั้งสิ้น อ.สุคิริน โดยศูนย์อำนวยความเป็นธรรม อ.สุคิริน ได้มีหนังสือเชิญนายมามะฯ มาให้ข้อเท็จจริง แต่นายมามะฯ ไม่ให้ความร่วมมือมาให้ข้อเท็จจริง อ.สุคิริน มีความเห็นว่านายมามะฯ กระทำการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน จึงเห็นควรยุติเรื่อง
                                    ข้อกฎหมาย
                                    ๑. ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
     ข้อ ๔๘ พนักงานจ้างต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดตามที่กำหนดไว้เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ของพนักงานเทศบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดไว้ พนักงานจ้างผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง พนักงานจ้างผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย จะต้องรับโทษทางวินัย ซึ่งมี ๔ สถาน คือ
                                    (๑) ภาคทัณฑ์
                                    (๒) ตัดค่าตอบแทน
                                    (๓) ลดเงินค่าตอบแทน
                                    (๔) ไล่ออก
                                      ข้อ ๔๙ การกระทำความผิดดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
                                    (๖) ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน
          ข้อ ๕๐ เมื่อมีกรณีที่พนักงานจ้างถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้นายกเทศมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว และต้องให้โอกาสพนักงานจ้างที่ถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฏว่าพนักงานจ้างผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้นายกเทศมนตรีรายงานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลพิจารณา แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำผิดให้สั่งยุติเรื่องและรายงานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลพิจารณา เมื่อคณะกรรมการพนักงานเทศบาลมีมติประการใด ให้นายกเทศมนตรีปฏิบัติตามมตินั้นภายในเจ็ดวันนับแต่วันรับทราบมติ แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำความผิดให้สั่งยุติเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนพนักงานจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ของพนักงานเทศบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลโดยอนุโลม
๒. ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
ข้อ ๓๑ พนักงานเทศบาลผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในกรณีดังต่อไปนี้ ถือเป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งซึ่งนายกเทศมนตรีจะดำเนินการทางวินัยตามข้อ ๗๐ วรรคหนึ่ง โดยไม่สอบสวนหรืองดการสอบสวนก็ได้
(๒) ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน และนายกเทศมนตรีได้ดำเนินการสอบสวนแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
ข้อ ๗๐ ภายใต้บังคับวรรคสอง พนักงานเทศบาลผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้นายกเทศมนตรีสั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามมิให้ลดโทษลงต่ำกว่าปลดออก
๓. หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม. ด่วน ที่ น.ว. ๑๒๕/๒๕๐๓ ลว. ๕ ต.ค.๒๕๐๓ เรื่อง การลงโทษข้าราชการผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง สรุปความได้ว่า ครม.ประชุมเมื่อวันที่ ๔ ต.ค.๒๕๐๓ ลงมติเห็นชอบตามที่ ก.พ.เสนอ และให้ถือปฏิบัติในเรื่องความผิดฐานละทิ้งหน้าที่ราชการไปเลยเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งควรไล่ออกจากราชการ จะปรานีลดหย่อนผ่อนโทษลงได้ก็เพียงปลดออกจากราชการ และหนังสือ สำนักเลขาธิการ ครม. ที่ นร ๐๒๐๕/ว. ๒๓๔ ลว. ๒๔ ธ.ค.๒๕๓๖เรื่อง ขอปรับปรุงมติ ครม.เกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงบางกรณี สรุปได้ว่า ครม.ได้ลงมติเมื่อวันที่ ๒๑ ธ.ค.๒๕๓๖   อนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ .เสนอปรับปรุงมติ ครม.  เมื่อวันที่ ๔ ต.ค.๒๕๐๓ โดยปรับปรุงถ้อยคำเพื่อให้เกิดความชัดเจนจากความว่า “ละทิ้งหน้าที่ราชการไปเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร” เป็น “ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลย”
                                    ข้อพิจารณา
                                    ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ตรวจสอบกระบวนการดำเนินการสอบสวนของ ทต.
สุคิริน เห็นว่า คณะกรรมการฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหา สรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา และให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงแสดงพยานหลักฐานเพื่อแก้ข่าวกล่าวหา แล้ว
จึงขอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการทางวินัยฯ ได้โปรดพิจารณาต่อไป
                                  ประเด็นที่ต้องพิจารณา
๑. ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้แล้วหรือไม่ ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. – ๒ ก.พ.๒๕๕๕ รวม ๑๐ วันทำการ 
๒. พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำความผิดทางวินัย  ฐานละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ตาม ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง  ข้อ ๔๙  (๖) และเป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลย ตามมติ ครม.วันที่ ๔ ต.ค.๒๕๐๓ ประกอบมติ ครม.วันที่ ๒๑ ธ.ค.๒๕๓๖  หรือไม่ อย่างไร
๓. การที่คณะกรรมการสอบสวนฯ และนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน มีความเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันตามประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ข้อ ๔๙ (๖)  เห็นควรไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ มีความถูกต้อง เหมาะสม หรือไม่ อย่างไร      
มติที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการสอบสวนทางวินัยของ ทต.
สุคิริน ประกอบกับข้อกฎหมาย ระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว มีความเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ม.ค. – ๒ ก.พ.๒๕๕๕ รวม ๑๐ วันทำการ พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำความผิดทางวินัย  ฐานละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ตาม ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง  ข้อ ๔๙  (๖) และไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลย ตามมติ ครม.วันที่ ๔ ต.ค.๒๕๐๓ ประกอบมติ ครม.วันที่ ๒๑ ธ.ค.๒๕๓๖                          ความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯ และนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน ที่มีความเห็นว่าควรไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ มีความถูกต้อง เหมาะสมแล้ว
มติที่ประชุม        เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการดำเนินการทางวินัยฯ ได้พิจารณาโดยให้ไล่ออกจากราชการ และให้เทศบาลรายงานผลการลงโทษให้จังหวัดทราบเพื่อรายงานคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลต่อไป

๒. การดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้าง ทต.บาเจาะ รายนายอ๊ะสะอารี 
เจะเลาะ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่ง พนักงานขับรถขยะ
                               เรื่องเดิม
            ๑. ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการทางวินัยและการให้ออกจากราชการ ครั้งที่ ๓ /๒๕๕๕ เมื่อวันที่  ๑๖ ส.ค. ๒๕๕๕ คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาเรื่องการดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้าง ทต.บาเจาะ รายนายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่ง พนักงานขับรถขยะ กรณีงานธุรการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.บาเจาะ มีหนังสือ(บันทึกข้อความ) ที่ นธ ๖๖๐๔/   ลว. ๑๓ ก.ค.๒๕๕๔ เรื่อง พนักงานจ้างทั่วไปขาดราชการ รายงานต่อนายกเทศมนตรี สรุปได้ว่า นายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ พนักงานจ้างทั่วไป (พขร.บรรทุกขยะ ๘๐-๔๗๐๘ นธ.) สังกัดกองสาธารณสุขฯ ได้ขาดราชการไม่มาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ รวมเวลา ๑๔ วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พิจารณาแล้วสรุปประเด็นวินิจฉัยว่า ประเด็นแรก ผู้ถูกกล่าวหาขาดงานในระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ จริง โดยรับสารภาพจากการสอบปากคำ ประเด็นที่สอง ผู้ถูกกล่าวหาได้นำใบรับรองแพทย์มาเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา และดูจากใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุให้หยุดงานเพื่อรักษาตัว ระบุเพียงให้รักษาตัวอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึงหยุดงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร ประเด็นที่สาม ผู้ถูกกล่าวหาได้เขียนใบลาป่วยขึ้นมาแต่ยังไม่มีการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจอนุญาต ดังนั้น การลาโดยไม่มีการอนุญาตจึงถือว่าผู้ถูกกล่าวหาขาดงานไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร คณะกรรมการสอบสวนฯ จึงมีความเห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ปรากฏตามบันทึกการลงลายมือชื่อการมาทำงาน โดยไม่มีเหตุอันสมควร   จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาที่จะหยุดงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า ๗ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อ ๔๙ (๖) ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ผู้ถูกกล่าวหาควรได้รับโทษไล่ออก ตามข้อ ๔๘ (๔)  ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง และนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะได้เสนอต่อ ก.ท.จ.นราธิวาส ขอความเห็นชอบไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ
๒. คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาตามการให้ถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหาและเพื่อนร่วมงาน และจากบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของข้าราชการตามทางการสอบสวนของ ทต.บาเจาะแล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในระหว่างวันที่  ๒๕, ๒๗, ๒๘, ๒๙, ๓๐ เดือน มิ.ย.๒๕๕๔ และวันที่ ๑ – ๒, ๔ – ๑๑ เดือน ก.ค.๒๕๕๔ ตามที่มีการกล่าวหา แต่พิจารณาเห็นว่าการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการเสนอใบลาป่วยของผู้ถูกกล่าวหาว่าได้มีการยื่นใบลาต่อใคร เมื่อไหร่ ทั้งไม่ปรากฏความเห็นของผู้มีอำนาจพิจารณา และความรุนแรงของอาการป่วยของผู้ถูกกล่าวหาว่าในระหว่างวันที่ ๒๕ –มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่แค่ไหน อย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับความเป็นธรรมในการพิจารณาความผิดและการลงโทษกับผู้ถูกกล่าวหา จึงเห็นควรให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้มีการสอบสวนและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม ดังนี้
(๑) ให้สอบถ้อยคำนางสะปิเยาะ ดิเลาะ ซึ่งเป็นหัวหน้างาน และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในสายงาน ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้มีการยื่นใบลาป่วยสำหรับวันที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือไม่ เมื่อไหร่ และอย่างไร
(๒) สอบถ้อยคำบุคคลแวดล้อม เช่น เพื่อนบ้าน บุคคลในครอบครัว หรือตามที่เห็นสมควร ว่าพฤติการณ์การป่วยของผู้ถูกกล่าวหาในระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ มีอาการรุนแรงมากน้อยอย่างไร เป็นอุปสรรคต่อการทำงานตามหน้าที่ราชการแค่ไหน อย่างไร
(๓) สอบถ้อยคำบุคคลแวดล้อม เช่น เพื่อนบ้าน บุคคลในครอบครัว หรือตามที่เห็นสมควร ว่าในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ผู้ถูกกล่าวหาพักรักษาตัวอยู่ที่ไหน อย่างไร หรือมีพฤติการณ์การอยู่อย่างไร
(๔) ให้ผู้ถูกกล่าวหาจัดหาหลักฐานของทางโรงพยาบาลที่เป็นประวัติการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยในห้วงเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ มาแสดงเพื่อประกอบการให้ถ้อยคำด้วย
๓. ก.ท.จ.นราธิวาส ได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๘ ก.ย.๒๕๕๕ มีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ และได้แจ้งให้ ทต.บาเจาะ ดำเนินการตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ 
                                ข้อเท็จจริง
ทต.บาเจาะ แจ้งว่า ได้ดำเนินการสอบสวนและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว   ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการฯ จึงได้เสนอรายละเอียดการดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้าง ทต.บาเจาะ รายนายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่ง พนักงานขับรถขยะ ดังนี้
๑.งานธุรการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.บาเจาะ ได้มีหนังสือ (บันทึกข้อความ) ที่ นธ ๖๖๐๔/    ลว. ๑๓ ก.ค.๒๕๕๔ เรื่อง พนักงานจ้างทั่วไปขาดราชการ รายงานต่อนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ สรุปได้ว่า นายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ พนักงานจ้างทั่วไป (พขร.บรรทุกขยะ ๘๐-๔๗๐๘ นธ.) สังกัดกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้ขาดราชการไม่มาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ รวมเวลา ๑๔ วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ
๒. ทต.บาเจาะ ได้มีคำสั่ง ที่ ๑๔๙/๒๕๕๔ ลว. ๒๒ ก.ค.๒๕๕๔ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ประกอบด้วยกรรมการจำนวน ๕ คน เพื่อทำการสอบสวนทางวินัยกับนายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ 
๓. ข้อกล่าวหา ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน
๔. นายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ แจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ให้นายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ  ผู้ถูกกล่าวหาทราบ  ตามหนังสือ ทต.บาเจาะ ที่ นธ ๖๖๐๘/-   ลว. ๒๒ ก.ค.๒๕๕๔
๕. นายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ แจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ให้ประธานกรรมการสอบสวนฯ ทราบ ตามหนังสือ ทต.บาเจาะ ที่ นธ ๖๖๐๘/ ๓๘   ลว. ๒๒ ก.ค.๒๕๕๔
๖. คณะกรรมการฯ  ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา  ในวันที่ ๕ ส.ค.๒๕๕๔ ณ ห้องประชุม ทต.บาเจาะ ตามหนังสือ ทต.บาเจาะ ที่ นธ ๖๖๐๘/ พิเศษ   ลว. ๒ ส.ค.๒๕๕๔  และผู้ถูกกล่าวหาได้ลงลายมือชื่อรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ ๕ ส.ค.๒๕๕๕
๗. คณะกรรมการฯ  ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา  ในวันที่ ๑๗ ต.ค.๒๕๕๔ ณ ห้องประชุม ทต.บาเจาะ ตามหนังสือ ทต.บาเจาะ  ที่ นธ ๖๖๐๘/พิเศษ  ลว. ๑๔ ต.ค.๒๕๕๔ แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหา  (แบบ สว.๓)
๘. คณะกรรมการฯ  ได้ส่งบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา (แบบ สว.๓)  ให้ผู้ถูกกล่าวหา   เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อรับทราบและส่งคืนให้ ทต.บาเจาะ  พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจงให้ถ้อยคำแก้ข้อกล่าวหา หรือชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นหนังสือภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ ตามหนังสือ ทต.บาเจาะ  ที่ นธ ๖๖๐๘/พิเศษ  ลว. ๓๐ เม.ย.๒๕๕๕  โดยผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อ ๔ พ.ค.๒๕๕๕ แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อรับทราบในแบบ สว.๓ แต่อย่างใด (เป็นการทำใหม่ให้ครบตามกระบวนการสอบสวน)
                                       ๙. คณะกรรมการฯ  ได้สอบถ้อยคำบุคคล จำนวน ๖ ราย สรุปได้ ดังนี้
   (๑) วันที่ ๕ ส.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ ผู้ถูกกล่าวหา ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีอาชีพเป็นลูกจ้างของ ทต.บาเจาะ มีหน้าที่ขับรถบรรทุกขยะ โดยเริ่มทำงานเวลา ๐๖.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. และงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย ในระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ผู้ถูกกล่าวหาป่วยเป็นโรคหอบและหายใจไม่ออก ชาตามตัว โดยมีใบรับรองแพทย์ จำนวน ๒ ฉบับ คือ ฉบับลงวันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๔ และ ลว. ๒๘ ก.ค.๒๕๕๔ ช่วงวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ผู้ถูกกล่าวหาได้แจ้งให้นายสมาน  เจ๊ะยิ พนักงานประจำรถบรรทุกขยะ ให้แจ้ง ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทราบแล้ว และผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นใบลาป่วยต่อหัวหน้างาน คือนางสะปิเยาะ  ดิเลาะ   และแจ้งให้
นายมะสะตา  สะมะแอ  และนายสมาน  เจะยิ พนักงานจ้างทั่วไปทราบแล้ว
(๒) วันที่ ๕ ต.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนางสะปิเยาะ  ดิเลาะ  ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ช่วงก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะขาดงานติดต่อกันเป็นเวลานานนั้น ได้มาทำงานเป็นปกติทุกวัน ไม่เคยขาดงานหรือหายไปแต่อย่างใด
(๓) วันที่ ๕ ต.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนายมะสะตา  สะมะแอ เป็นพนักงานจ้าง ตำแหน่ง พนักงานขับรถบรรทุกขยะ ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำเป็นหัวหน้างานของผู้ถูกกล่าวหา ในช่วงเดือน มี.ค. – พ.ค.๒๕๕๔ ผู้ถูกกล่าวหา มาทำงานปกติทุกวัน แต่ช่วงก่อนวันที่ ๒๕ พ.ค. ๒๕๕๔ ประมาณ ๒๐ วัน ผู้ถูกกล่าวหาก็ได้ขาดงานไปและให้ผู้ให้ถ้อยคำเป็นคนขับรถแทนให้
(๔)  วันที่ ๕ ต.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนายสมาน  เจ๊ะยิ ตำแหน่ง พนักงานจ้าง  ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำเป็นเพื่อนร่วมงานกับผู้ถูกกล่าวหา ปกติผู้ถูกกล่าวหาจะมาทำงานทุกวัน และช่วงก่อนวันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๔ นั้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ขาดงานไป โดยให้นายมาหะมะสุกรีย์  อาแว  เป็นคนขับรถแทน ๒๐ วัน
(๕)  วันที่ ๕ ต.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนายมะหะมะอารีรี  อับดุลเลาะ  ตำแหน่ง พนักงานจ้าง ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะมาทำงานปกติทุกวัน แต่หลังจากวันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๔ ก็หายไปหลายวัน แล้วกลับมาทำงานปกติ
(๖)  วันที่ ๑๒ ต.ค.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนายแพทย์ฮัสปาน  กุลอาบาซ ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ใบรับรองแพทย์ที่เจ้าหน้าที่นำมาแสดงเป็นใบรับรองแพทย์เพื่อนำไปประกอบการสอบใบขับขี่หรือสมัครงานเท่านั้น ไม่ใช่ใบรับรองแพทย์การตรวจรักษาโรค ลายมือชื่อที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ที่นำมาแสดงมีการเขียนเพิ่มเติมทีหลัง ไม่ใช่ลายมือชื่อของผู้ให้ถ้อยคำแต่อย่างใด

                                       ๙. คณะกรรมการฯ  ได้สอบถ้อยคำบุคคลเพิ่มเติม จำนวน  ๓ ราย สรุปได้ ดังนี้
                (๑) วันที่ ๑๓ พ.ย.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำนางสะปิเยาะ  ดิเลาะ  ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาป่วยผู้ถูกกล่าวหานอนป่วยอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลาประมาณ ๓ – ๔ วัน ประมาณวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ และหลังจากนั้นผู้ให้ถ้อยคำก็ไม่ทราบข่าวการป่วยและไม่พบผู้ถูกกล่าวหาอีก ผู้ให้ถ้อยคำได้รับใบลาป่วยของผู้ถูกกล่าวหาเมื่อวันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๔ โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ฝากใบลากับนายอาหามะอารีรี อับดุลเลาะ หัวหน้าคนงาน ผู้ให้ถ้อยคำได้ตรวจสอบใบลาพบว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ลาป่วยทั้งหมดเป็นเวลา ๑๕ วัน โดยแนบใบรับรองแพทย์ซึ่งมีข้อความว่าให้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ให้ถ้อยคำได้แจ้งให้ ผอ.กองสาธารณสุขฯ ทราบด้วยวาจา  จึงเรียกหัวหน้าคนงานมาพบพร้อมอธิบายระเบียบการลาป่วย ๓ วันขึ้นไปต้องแนบใบรับรองแพทย์ที่มีข้อความให้พักรักษาตัวพร้อมกำหนดเวลาที่ชัดเจน หัวหน้าคนงานกลับมาแจ้งในวันรุ่งขึ้นว่าได้โทรศัพท์ถึงผู้ถูกกล่าวหาอธิบายวิธีการปฏิบัติการลาแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้นอนพักรักษาตัวที่บ้านพัก โดยขณะนั้นผู้ถูกกล่าวหาไปขายของที่ จ.สตูล จึงได้บอกให้ผู้ถูกกล่าวหากลับมาแก้ไขใบลาป่วยดังกล่าว แต่ผู้ถูกกล่าวหายืนยันว่าจะขายของต่อไป ผู้ให้ถ้อยคำจึงได้เก็บใบลาป่วยในโต๊ะ เพื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาจะกลับมาแก้ไขใบลาให้ถูกต้อง ระหว่างนั้นผู้ให้ถ้อยคำก็ปฏิบัติงานตามหน้าที่ตามปกติจนผู้ให้ถ้อยคำลืมใบลาที่เก็บไว้โดยไม่ได้ส่งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ หลังจาก ๑๕ วัน ผู้ถูกกล่าวหาก็ได้กลับมาทำงานตามปกติ ผู้ให้ถ้อยคำได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ ผอ.กองสาธารณสุขฯ ทราบด้วยวาจามาโดยตลอด
(๒) วันที่ ๑๓ พ.ย.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำ น.ส.นูรีฮายาตี  ลามะทา ตำแหน่ง พนักงานจ้าง ทต.บาเจาะ ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาป่วยผู้ถูกกล่าวหานอนป่วยอยู่ที่บ้าน โดยไม่ไม่ได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เป็นเวลาประมาณ ๓ – ๔ วัน ประมาณวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ และหลังจากนั้นผู้ให้ถ้อยคำก็ไม่ได้ทราบข่าวการป่วยและไม่ได้พบผู้ถูกกล่าวหาอีก
(๓) วันที่ ๑๓ พ.ย.๒๕๕๔ สอบถ้อยคำ น.ส.อามานีย์  ยูโซะ ตำแหน่ง พนักงานจ้าง กองวิชาการ  ทต.บาเจาะ ให้ถ้อยคำสรุปได้ว่า ผู้ให้ถ้อยคำเป็นเพื่อนบ้านกับผู้ถูกกล่าวหา ในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาป่วย ประมาณวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ผู้ให้ถ้อยคำทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไปหาหมอบ้านเป็นบางครั้ง โดยภรรยาพาไปและคอยดูแลอาการตลอดเวลา คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้เชิญ น.ส.นูรีฮา  อูเซ็ง ภรรยาผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำในวันที่ ๒๑ พ.ย.๒๕๕๕ แต่ น.ส.นูรีฮาฯ ไม่ได้มาให้ถ้อยคำตามนัด
                                       ๑๐. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
                  (๑) สำเนาบัญชีลงเวลาการปฏิบัติราชการของข้าราชการ จำนวน ๑๕ วันทำการ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค. ๒๕๕๔  โดยไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้มาลงชื่อปฏิบัติราชการ ดังนี้
                                         - เดือน มิ.ย.๒๕๕๔  วันที่ ๒๕, ๒๗, ๒๘, ๒๙, ๓๐
                                         - เดือน ก.ค.๒๕๕๔ วันที่ ๑ – ๒, ๔ – ๑๑
                 (๒) ใบรับรองแพทย์คลินิกแพทย์ฮัสปาน  กุลอาบาซ ลว. ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๔ โดยนายแพทย์ฮัสปาน  กุลอาบาซ สรุปได้ว่า นายแพทย์ฮัสปานฯ ได้ตรวจร่างกาย            นายอ๊ะสะอารี  เจะเลาะ ขอรับรองว่านายอ๊ะสะอารีฯ ผลการตรวจเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน โรคหอบ หายใจไม่สะดวก ชาตามเนื้อมือและเท้า ความคิดเห็นและคำแนะนำของแพทย์ สมควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
                                             (๓) ใบรับรองแพทย์ โรงพยาบาลบาเจาะ ลว. ๒๘ ก.ค.๒๕๕๔ โดยนายแพทย์อีระฟาน  หะยีอีแต สรุปได้ว่า นายแพทย์อีระฟานฯ ขอรับรองว่านายอ๊ะสะอารี เจะเลาะ เป็นโรคหืด มีอาการกำเริบครั้งคราว ได้รับการตรวจเมื่อวันที่ ๒๘ ก.ค.๒๕๕๔ คำแนะนำ “รักษาอย่างต่อเนื่อง”
(๔) ใบลาป่วย ลว. ๒๗ มิ.ย.๒๕๕๔  เรื่อง ขออนุญาตลา โดยอ๊ะสะอารี        เจะเลาะ เรียน นายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ สรุปความว่า นายอ๊ะสะอารีฯ ขอลาป่วย เนื่องจากเป็นโรคหอบ หายใจไม่สะดวก ชาตามมือและเท้า ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ มีกำหนด ๑๕ วัน แต่ไม่ปรากฏการลงความเห็นของผู้บังคับบัญชาและคำสั่งของนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ
(๕) บัตรบันทึกผู้รับบริการภายนอก โรงพยาบาลบาเจาะ ชื่อผู้รับบริการ จำนวน ๑๓ ชุด ตามวันที่เข้ารับการตรวจรักษา วันที่ ๑๗ ก.พ.๒๕๕๐, ๒๕ เม.ย.๒๕๕๐,   ๖ เม.ย.๒๕๕๑, ๓ มี.ค.๒๕๕๒, ๓ ก.ค.๒๕๕๒, ๖ พ.ย.๒๕๕๒,  ๖ ธ.ค.๒๕๕๒, ๒๗ ธ.ค.๒๕๕๓, ๓ มิ.ย.๒๕๕๔, ๖ มิ.ย.๒๕๕๔, ๑๙ ก.ค.๒๕๕๔, ๒๘ ก.ค.๒๕๕๔, ๔ ส.ค.๒๕๕๔ (วันที่กล่าวหาว่าขาดราชการ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ / วันที่ขอลาป่วยตามใบลา      ๒๗ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔)
๑๑. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลการสอบสวนและรายงานผลการสอบสวนให้นายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ ทราบตามรายงานการสอบสวน (แบบ สว.๖) ลว. ๒๑ ต.ค.๒๕๕๔ สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พิจารณาแล้วสรุปประเด็นวินิจฉัยว่า ประเด็นแรก ผู้ถูกกล่าวหาขาดงานในระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ จริง โดยรับสารภาพจากการสอบปากคำ ประเด็นที่สอง ผู้ถูกกล่าวหาได้นำใบรับรองแพทย์มาเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา และดูจากใบรับรองแพทย์ ไม่ได้ระบุให้หยุดงานเพื่อรักษาตัว ระบุเพียงให้รักษาตัวอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึงหยุดงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร ประเด็นที่สาม ผู้ถูกกล่าวหาได้เขียนใบลาป่วยขึ้นมาแต่ว่ายังไม่มีการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจอนุญาต ดังนั้น การลาโดยไม่มีการอนุญาตจึงถือว่าผู้ถูกกล่าวหาขาดงานไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร คณะกรรมการสอบสวนฯ จึงมีความเห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มิ.ย. – ๑๑ ก.ค.๒๕๕๔ ปรากฏตามบันทึกการลงลายมือชื่อการมาทำงาน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ใบรับรองแพทย์ที่นำมายืนยันข้ออ้างว่าป่วยแพทย์มิได้ระบุให้หยุดพักรักษาตัวใบลาป่วยก็ไม่ได้เสนอต่อผู้บังคับบัญชาจึงเป็นใบลาที่ไม่สมบูรณ์ จากพยานหลักฐานและการสอบพยาน จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาที่จะหยุดงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า ๗ วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อ ๔๙ (๖) ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ผู้ถูกกล่าวหาควรได้รับโทษไล่ออก ตามข้อ ๔๘ (๔)  ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง และนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะได้เสนอต่อ ก.ท.จ.นราธิวาส ขอความเห็นชอบไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ
๑๒. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลการสอบสวนเพิ่มเติม และรายงานผลการสอบสวนให้นายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ ทราบตามรายงานการสอบสวน (แบบ สว.๖) ลว. ๑๗ ธ.ค.๒๕๕๕ สรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นใบลาป่วยจริง แต่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากใบรับรองแพทย์ไม่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วย  แต่เป็นใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการอนุญาตขับขี่ทั่วไป การยื่นใบลาป่วยไม่ถูกต้อง จึงไม่มีผลใด ๆ ที่จะอ้างในการหยุดงาน ผู้ถูกกล่าวหามีอาการป่วยจริง แต่จากการสอบถ้อยคำของพยานถึงพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาไม่ถึงกับต้องขาดงานเกินกว่า ๗ วัน เพราะหากอาการหนักต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่จากการตรวจประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลบาเจาะห้วงที่ขาดงานไม่ปรากฏว่าได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อย่างใด ประกอบกับการให้ถ้อยคำของหัวหน้างาน พยาน ตรงกันว่าผู้ถูกกล่าวหาป่วย ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ๓ – ๔ วัน หลังจากนั้นก็เดินทางไปขายของที่ต่างจังหวัด (จังหวัดสตูล) และไม่ได้มาทำงานอีกเลย คณะกรรมการสอบสวนฯ มีความเห็นยืนยันตามมติเดิมที่ให้ไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ
                                  ข้อกฎหมาย
                                   ๑. ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
           ข้อ ๔๘ พนักงานจ้างต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดตามที่กำหนดไว้เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของพนักงานเทศบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล ซึ่งคณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดไว้
พนักงานจ้างผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง พนักงานจ้างผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย จะต้องรับโทษทางวินัย ซึ่งมี ๔ สถาน คือ
                                  (๑) ภาคทัณฑ์
                                  (๒) ตัดค่าตอบแทน
                                  (๓) ลดเงินค่าตอบแทน
                                  (๔) ไล่ออก
                                  ข้อ ๔๙ การกระทำความผิดดังต่อไปนี้ ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
                                  (๖) ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน
           ข้อ ๕๐ เมื่อมีกรณีที่พนักงานจ้างถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้นายกเทศมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว และต้องให้โอกาสพนักงานจ้างที่ถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฏว่าพนักงานจ้างผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้นายกเทศมนตรีรายงานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลพิจารณา แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำผิดให้สั่งยุติเรื่องและรายงานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลพิจารณา เมื่อคณะกรรมการพนักงานเทศบาลมีมติประการใด ให้นายกเทศมนตรีปฏิบัติตามมตินั้นภายในเจ็ดวันนับแต่วันรับทราบมติ แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำความผิดให้สั่งยุติเรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนพนักงานจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ของพนักงานเทศบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลโดยอนุโลม
                                  ข้อ ๕๙ การลาป่วยของพนักงานจ้างกำหนดไว้ ดังนี้
                                        (๑) การลาป่วยกรณีปกติ     
                                       (ข) พนักงานจ้างทั่วไปที่มีระยะเวลาการจ้างหนึ่งปี มีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าตอบแทนอัตราปกติระหว่างลา ในช่วงระยะเวลาการจ้างไม่เกินสิบห้าวันทำการ ในกรณีที่มีระยะเวลาการจ้างตั้งแต่เก้าเดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึงหนึ่งปี มีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าตอบแทนอัตราปกติระหว่างลา ในช่วงระยะเวลาการจ้างไม่เกินแปดวันทำการ ในกรณีที่มีระยะเวลาการจ้างตั้งแต่หกเดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึงเก้าเดือน มีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าตอบแทนอัตราปกติระหว่างลา ในช่วงระยะเวลาการจ้างไม่เกินหกวันทำการ ในกรณีที่มีระยะเวลาการจ้างตั้งต่ำกว่าหกเดือน มีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าตอบแทนอัตราปกติระหว่างลา ในช่วงระยะเวลาการจ้างไม่เกินสี่วันทำการ
ข้อ ๕๙ วรรคสอง ลูกจ้างผู้ใดเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติงานได้ ให้ยื่นใบลาต่อนายกเทศมนตรีก่อนหรือในวันที่ลา เว้นแต่กรณีจำเป็นจะเสนอหรือจัดส่งใบลาในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการก็ได้
ข้อ ๕๙ วรรคสาม การลาป่วยเกินสามวัน ต้องมีใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งส่งพร้อมกับใบลาด้วย เว้นแต่ผู้มีอำนาจอนุญาตให้ลาจะเห็นสมควรเป็นอย่างอื่น
๒. มติคณะรัฐมนตรี  ตามหนังสือ สนง.เลขาธิการ ครม. ที่  นร  ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๖ ประกอบหนังสือ สนง.เลขาธิการ ครม. ด่วน ที่ น.ว. ๑๒๕/๒๕๐๓ ลว. ๕ ต.ค.๒๕๐๓   ได้กำหนดแนวทางเกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการผู้กระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงบางกรณี สรุปว่ากระทำผิดฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลยเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งควรลงโทษเป็นไล่ออกจากราชการ
                                  ข้อพิจารณา
           ฝ่ายเลขานุการได้ตรวจสอบการดำเนินการสอบสวนของ ทต.บาเจาะ แล้ว เห็นว่าคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ได้แจ้ง    ข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และได้ให้โอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา พร้อมทั้งได้สอบถ้อยคำบุคคลและแสวงหาพยานเอกสารเพิ่มเติมตามที่ ก.ท.จ.นราธิวาส แจ้งแล้ว
จึงเสนอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการดำเนินการทางวินัยฯ ได้พิจารณาตามประเด็น ต่อไปนี้
                                  ประเด็นที่ต้องพิจารณา
๑. ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้แล้วหรือไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในระหว่างวันที่  ๒๕, ๒๗, ๒๘, ๒๙, ๓๐ เดือน มิ.ย.๒๕๕๔ และวันที่ ๑ – ๒, ๔ – ๑๑ เดือน ก.ค.๒๕๕๔
๒. การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาเกินกว่าเจ็ดวัน หรือไม่ อย่างไร
                                  ๓. การพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนฯ และนายกเทศมนตรีตำบล
บาเจาะที่ให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาโดยให้ไล่ออก มีความถูกต้อง เหมาะสม หรือไม่ อย่างไร
มติที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการสอบสวนทางวินัยของ ทต.บาเจาะ ประกอบกับข้อกฎหมาย ระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว มีความเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในระหว่างวันที่  ๒๕, ๒๗, ๒๘, ๒๙, ๓๐ เดือน มิ.ย.๒๕๕๔ และวันที่ ๑ – ๒, ๔ – ๑๑ เดือน ก.ค.๒๕๕๔  การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาเกินกว่าเจ็ดวัน ความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯ และนายกเทศมนตรีตำบลบาเจาะ ที่เห็นว่าควรลงโทษผู้ถูกกล่าวหาโดยให้ไล่ออกจากราชการ มีความถูกต้อง เหมาะสมแล้ว
มติที่ประชุม        เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการดำเนินการทางวินัยฯ ได้พิจารณาโดยให้ไล่ออกจากราชการ และให้เทศบาลรายงานผลการลงโทษให้จังหวัดทราบเพื่อรายงานคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลต่อไป
๔.๓ การดำเนินการทางวินัยพนักงานจ้างเทศบาลเมืองนราธิวาส ราย      นายนิเลาะ  ดือราแมตำแหน่ง พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์
                                ต้นเรื่อง
๑. นายนิเลาะ  ดือราแม  พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งพนักงาน       ขับรถยนต์ (รถเก็บเศษวัสดุ) สังกัดกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือ (บันทึกข้อความ) ที่ นธ ๕๒๐๐๕/ ๘๔๒ ลว. ๑๔ พ.ค.๒๕๕๕ รายงานต่อนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ว่าตนเองได้ออกปฏิบัติงานเก็บขนเศษขยะและเศษวัสดุประจำวันตามปกติ ระหว่างเดินทางไปเติมน้ำมันได้เกิดเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์กระบะ บริเวณสี่แยกไฟแดง บือตง เนื่องจากรถยนต์คันหน้าเบรกกระชั้นชิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค.๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๕๐ น.
๒. ทม.นราธิวาส ได้มีคำสั่งที่ ๖๔๐/๒๕๕๕ ลว. ๓ ก.ค.๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัย  ประกอบด้วยกรรมการจำนวน ๓ คน   เพื่อดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับนาย  นิเลาะ  ดือราแม กรณีขับรถยนต์ของเทศบาลเกิดเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์กระบะ
๓. ข้อกล่าวหา ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟถนนตัดใหม่แยกพนาสณฑ์ ทำให้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ของ ทม.นราธิวาส และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน ได้รับความเสียหาย เป็นการประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ
๔. นายกเทศมนตรีฯ แจ้งคำสั่งให้ประธานกรรมการฯ ทราบ เมื่อ ๙ ก.ค.๒๕๕๕
๕. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา เมื่อ ๑๒ ก.ค.๒๕๕๕
๖. คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา เมื่อ ๓๑ ก.ค.๒๕๕๕
๗. ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือ ลว. ๑๘ ก.ค.๒๕๕๕  เรื่อง  การสอบข้อเท็จจริงนายนิเลาะ  ดือราแม  สรุปว่า  ผู้ถูกกล่าวหาได้ทำหนังสือไว้กับคณะกรรมการฯ โดยขออ้างพยานหลักฐานตามสำนวนความรับผิดทางละเมิด ตามคำสั่งที่ ๖๑๕/๒๕๕๕ ลว. ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๕ ที่ให้ถ้อยคำไว้แล้ว
๘. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
                สำนวนการสอบถ้อยคำบุคคลของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ตามคำสั่ง ทม.นราธิวาส ที่ ๖๑๕/๒๕๕๕ ลว. ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๕ จำนวน ๖ ราย สรุปความได้ว่า
(๑) วันที่ ๒๐ ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายนิเลาะ  ดือราแม ผู้ถูกกล่าวหา ให้ถ้อยคำสรุปความได้ว่า  ผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์    กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.นราธิวาส มีหน้าที่รับผิดชอบการเก็บขนขยะ วัสดุ และ กิ่งไม้ ภายในเขตเทศบาล ออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. ของทุกวัน โดยขับรถจากศูนย์เครื่องจักรกล ถ.ตากใบ ต.บานาค พร้อมกับนายมูฮัมหมัดนูลา  บูละ และ   นายอาหามะฟันดี วานิ  เก็บขยะที่พนักงานกวาดกองไว้ริมถนนทุกสายในเขตเทศบาล แล้วนำไปทิ้งที่ทิ้งขยะของเทศบาลที่ ต.ลำภู โดยมีนายมาหะมะ  เจ๊ะดี จพง.สาธารณสุขชุมชน ๖ ว เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗  กองสาธารณสุขฯ เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.    โคกเคียน ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ขับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค.๒๕๕๕ เวลาประมาณ ๐๙.๕๐ น. ก่อนเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาได้ไปเก็บขนขยะบริเวณที่จัดงานกาชาดของ จ.นราธิวาส และได้นำขยะไปทิ้งที่ทิ้งขยะของเทศบาลบริเวณบ้านปลักปลา แล้วกลับเข้ามาในเขตเทศบาลเพื่อจะเก็บขยะตามถนนต่าง ๆ ก่อนที่จะทำงานต่อ   ผู้ถูกกล่าวหาได้แวะไปกินข้าวที่ร้านใกล้ ๆ ปั๊มคาลเท็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนโคกเคียน       ต.บางนาค เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ได้ขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม ป.ต.ท.ซึ่งอยู่ที่บ้านปลักปลา    ต.ลำภู โดยขับรถมาคนเดียวตามถนนโคกเคียน แต่เมื่อขับมาถึงสี่แยกสัญญาณไฟถนนพนาสณฑ์จึงได้เบรกรถเนื่องจากเป็นสัญญาณไฟแดง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถหยุดรถได้ทันที รถจึงได้ลื่นไถลไปกระแทกกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ซึ่งเป็นของ อบต.โคกเคียนโดยรถยนต์ของ อบต.โคกเคียน ได้รับความเสียหายกะบะท้ายพังยุบ รถยนต์ของ ทม.นราธิวาส ด้านหัวรถพังยุบ
(๒) วันที่ ๒๓ ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายมาหะมะ  เจ๊ะดี ตำแหน่ง จพง.สาธารณสุขชุมชน ๖ว กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.นราธิวาส  ให้ถ้อยคำสรุปความได้ว่า  ผู้ให้ถ้อยคำมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยงานรักษาความสะอาดและการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตรวจควบคุมดูแล และพิจารณาสั่งการการปฏิบัติงานของลูกจ้างและพนักงานจ้าง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗   กองสาธารณสุขฯ  เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน นายนิเลาะ  ดือราแม ผู้ถูกกล่าวหา ได้รายงานให้ผู้ให้ถ้อยคำทราบ ในขณะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
(๓) วันที่ ๒๓ ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายมูฮัมหมัดนูลา  บูละ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานประจำรถขยะ   กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.นราธิวาส  มีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บขนขยะ  วัสดุและกิ่งไม้ ภายในเขต ทม.นราธิวาสออกปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. ของทุกวัน โดยผู้ให้ถ้อยคำกับนายอาหามะฟันดี  วานิ เป็นพนักงานประจำรถ มีนายนิเลาะ  ดือราแม เป็นพนักงานขับรถ กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ กองสาธารณสุขฯ   เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส  ของ อบต.โคกเคียน ผู้ให้ถ้อยคำไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ในขณะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย 
(๔) วันที่ ๒๓ ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายมาหะมะฟันดี วานิ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งคนงานประจำรถขยะ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทม.นราธิวาส มีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บขนขยะ  วัสดุและ   กิ่งไม้ ภายในเขต ทม.นราธิวาส  ออกปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.  ของทุกวัน   โดยผู้ให้ถ้อยคำกับนายมูฮัมหมัดนูลา  บูละ เป็นพนักงานประจำรถ มีนายนิเลาะ  ดือราแม เป็นพนักงานขับรถ กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗  กองสาธารณสุขฯ  เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส  ของ อบต.โคกเคียน ผู้ให้ถ้อยคำไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ในขณะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย 
(๕) วันที่    ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายธวัชชัย รัตนนิยม ตำแหน่งนายช่างโยธา  ๓   อบต. โคกเคียน กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ กองสาธารณสุขฯ เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน ผู้ให้ถ้อยคำเป็นคนขับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน โดยผู้ให้ถ้อยคำได้ขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสุริยะประดิษฐ์ แล้วขับรถมาตามถนนตัดใหม่ พอถึงสี่แยกตัดกับถนนพนาสณฑ์ผู้ให้ถ้อยคำได้หยุดรถเนื่องจากเป็นสัญญาณไฟแดง แต่ปรากฏว่าได้มีรถมาชนท้ายรถที่ผู้ให้ถ้อยคำขับ โดยทราบว่ารถที่มาชนเป็นรถบรรทุกขยะของ ทม.นราธิวาส หมายเลขทะเบียน ๘๐ – ๔๐๑๗ นราธิวาส มีนายนิเลาะ ดือราแม เป็นคนขับ รถของ ทม.นราธิวาสด้านหน้าพังยุบ รถของ อบต.โคกเคียนท้ายกระบะพังยุบ
(๖) วันที่   ก.ค.๒๕๕๕ สอบถ้อยคำนายยิ่งพันธ์ ชินไชยชนะ ตำแหน่งนายช่างโยธา ๕  อบต.โคกเคียน กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗                กองสาธารณสุขฯ เฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.    โคกเคียน ผู้ให้ถ้อยคำนั่งไปกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.   โคกเคียน โดยนั่งไปกับนายธวัชชัย  รัตนนิยม เพื่อไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสุริยะประดิษฐ์ โดยขับรถมาตามถนนตัดใหม่ พอถึงสี่แยกตัดกับถนนพนาสณฑ์จึงหยุดรถเนื่องจากเป็นสัญญาณไฟแดง ปรากฏว่าได้มีรถมาชนท้ายรถที่ผู้ให้ถ้อยคำนั่งอยู่ขับ โดยทราบว่ารถที่มาชนเป็นรถบรรทุกขยะของ ทม.นราธิวาส หมายเลขทะเบียน ๘๐ – ๔๐๑๗ นราธิวาส มีนายนิเลาะ ดือราแม เป็นคนขับ รถของ ทม.นราธิวาสด้านหน้าพังยุบ รถของ อบต.โคกเคียนท้ายกระบะพังยุบ
(๗) สำเนารายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน สภ.เมืองนราธิวาส วันที่ ๑๔ พ.ค.๕๕ สรุปความได้ว่า นายธวัชชัย  รัตนนิยม พร้อมด้วยนายนิเลาะ  ดือราแม  พากันมา สภ.ฯ แจ้งเป็นหลักฐานกรณีรถเฉี่ยวชนกัน โดยในวันที่ ๑๔ พ.ค.๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ขณะที่นายธวัชชัยฯ ขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้า  ทะเบียน กข ๘๖๓๐ นธซึ่งเป็นของ อบต.โคกเคียน มาแยกบือตง ได้ถูกนายนิเลาะฯ ขับรถยนต์นิสสัน ทะเบียน ๘๐-๔๐๑๗ นธ รถเก็บขยะ ทม.นราธิวาส เฉี่ยวชนท้ายรถของนายธวัชชัยฯ ได้รับความเสียหาย แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ โดยนายนิเลาะฯ ยินดีซ่อมแซมรถคันทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ให้อยู่ในสภาพเดิม
๙. คณะกรรมการสอบสวนฯ สรุปผลการสอบสวนและรายงานผลการสอบสวนต่อนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ย.๒๕๕๕ สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ  เห็นว่า กรณีผู้ถูกกล่าวหาขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ของ ทม.นราธิวาส ชนท้ายรถยนต์ของ อบต.โคกเคียนได้รับความเสียหาย  เป็นเหตุให้เทศบาลต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของผู้ถูกกล่าวหา แต่ไม่ถึงกับเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และไม่ถึงกับเสียหายอย่างร้ายแรง ตามข้อ ๕ ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์  และเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยกระทำผิดและถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ควรว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
๑๐. นายกเทศมนตรีฯ มีความเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำผิดวินัยฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และเป็นกรณีกระทำผิดวินัยเล็กน้อย แต่เนื่องจากไม่เคยกระทำความผิดและเคยต้องโทษทางวินัยมาก่อน จึงมีเหตุอันควรลดโทษ โดยให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ เสนอ
๑๑. ประธานกรรมการสอบสวนรับทราบคำสั่งเมื่อ ๙ ก.ค.๒๕๕๕ และได้รายงานผลการสอบสวนให้นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ทราบเมื่อ ๒๗ ก.ย.๒๕๕๕ รวมระยะเวลา ๘๐ วัน
                                    ข้อกฎหมาย
                                    ๑. ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
ข้อ ๔๘ พนักงานจ้างต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดตามที่กำหนดไว้เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ของพนักงานเทศบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล ที่คณะกรรมการพนักงานเทศบาลกำหนดไว้พนักงานจ้างผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง พนักงานจ้างผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย จะต้องรับโทษทางวินัย ซึ่งมี ๔ สถาน คือ
                                (๑) ภาคทัณฑ์     (๒) ตัดค่าตอบแทน   (๓) ลดเงินค่าตอบแทน    (๔) ไล่ออก
ข้อ ๕๑ วรรคสี่ ในกรณีกระทำผิดวินัยเล็กน้อยและมีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษโดยให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือหรือว่ากล่าวตักเตือนก็ได้
๒. ประกาศ ก.ท.จ.นธ. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
ข้อ ๕ พนักงานเทศบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะเอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ และต้องไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการการประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
                                   ข้อพิจารณา
ฝ่ายเลขานุการฯ ได้ตรวจสอบกระบวนการดำเนินการสอบสวนของ ทม.นราธิวาส แล้ว เห็นว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ  มีการแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และได้ให้โอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา แล้ว
                                 ประเด็นที่ต้องพิจารณา
            ๑. ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้แล้วหรือไม่ ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำการขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟถนนตัดใหม่แยกพนาสณฑ์ ทำให้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ของ ทม.นราธิวาส และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน ได้รับความเสียหาย
๒. พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำผิดวินัยฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ แต่ไม่ถึงกับเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และไม่ถึงกับเสียหายอย่างร้ายแรง  ตามข้อ ๕ ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือไม่ อย่างไร
๓. การที่คณะกรรมการสอบสวนฯ และนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส มีความเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เป็นการผิดวินัยฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ แต่ไม่ถึงกับเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ถึงกับเสียหายอย่างร้ายแรง  และเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยกระทำผิดและถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ควรว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด มีความถูกต้อง เหมาะสม หรือไม่ อย่างไร      
จึงขอให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาดำเนินการทางวินัยฯ ได้โปรดพิจารณาต่อไป
มติที่ประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการสอบสวนทางวินัยของ ทม.นราธิวาส ประกอบกับข้อ กฎหมาย  ระเบียบ  ประกาศที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว      มีความเห็นว่า  ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติได้ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำการขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟถนนตัดใหม่แยกพนาสณฑ์ ทำให้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน นธ ๘๐-๔๐๑๗ นราธิวาส ของ ทม.นราธิวาส และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กข ๘๖๓๐ นราธิวาส ของ อบต.โคกเคียน ได้รับความเสียหาย พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำผิดวินัยฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง  ตามข้อ ๕ ของประกาศ ก.ท.จ.นราธิวาส เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์  เห็นควรให้ลงโทษภาคทัณฑ์ แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยกระทำผิดและถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน จึงเห็นควรงดโทษ โดยให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ
มติที่ประชุม        เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการดำเนินการทางวินัยฯ ได้พิจารณาควรให้งดโทษโดยให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลักษณ์อักษร และให้เทศบาลรายงานผลการลงโทษให้จังหวัดทราบเพื่อรายงานคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลต่อไป
ระเบียบวาระที่ ๖        เรื่องอื่น ๆ
                ไม่มี
    ปิดประชุมเวลา  ๑๒.๐๐ น.
------------------------------------------------------

ลงชื่อ..........................................ผู้จดรายงานการประชุม
          (นายวิสูตร  เปี่ยมสุวรรณ)
       นักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ชำนาญการ

ลงชื่อ..............................................ผู้ตรวจรายงานการประชุม
                (นายอิสระ  ละอองสกุล)
                ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น